กำชับจุดบั้งไฟ หลังแชร์ภาพตกใส่โรงเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ว่าเฟซบุ๊คเพจ "ข่าวกุมภวาปีโพสต์" ได้โพสภาพบั้งไฟ ที่จุดในงานประเพณีบุญบั้งไฟ วัดศรีนคราราม ม.4 เขตเทศบาลตำบลกุมภวาปี อ.กุมภวาปี ที่ตกลงในชุมชนของเขตเทศบาลตำบลกุมภวาปี ตอนช่วงเย็นของวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จำนวน 6 บั้ง โดยบั้งไฟได้ตกลงที่บริเวณโรงเรียนมหาไถ่ศึกษา 3 บั้ง , ที่ สภ.กุมภวาปี 1 บั้ง , ที่อาคารพาณิชย์หน้าตลาดสดกุมภวาปี 1 บั้ง , ที่สี่แยกร้านขายกับข้าวเจ๊หงส์ 1 บั้ง และที่ถนนหน้า สพป.อุดรธานี เขต 2 อีก 1 บั้ง โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีผู้เข้ามาโพสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมว่า มีการจุดบั้งไฟจุดใกล้ชุมชนไปหรือไม่ รวมถึงการเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุที่ จะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านมากน้อยเพียงใด
เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ นายสมหวัง พ่วงบางโพ รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ที่วัดศรีนคราราม เพื่อเข้าทำความเข้าใจกับคณะผู้จัดงานบุญบั้งไฟ และชาวบ้าน ที่ร่วมชมการจุดบั้งไฟอย่างสนุกสนาน โดยมี พระครูโสภณ พุทธิธาดา เจ้าอาวาสวัด รองเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (มหานิกาย) พร้อม นายวัลดี พันธุสิน กำนันตำบลกุมภวาปี และตัวแทนชาวบ้าน ร่วมกันรับฟังคำชี้แจง และแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาการจุดบั้งไฟ
คณะผู้จัดงานบุญบั้งไฟ ชี้แจงว่า ทางวัดศรีนคราราม ได้ยึดประเพณีบุญบั้งไฟสืบทอดกันมานานหลายร้อยปี เพื่อบูชาพญาแถน ขอให้น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ฝนตกต้องตามฤดูกาล ก่อนลงไถหว่านปักดำข้าวในนาเช่นทุกปี ซึ่งชาว อ.กุมภวาปี ได้ยึดถือประเพณีนี้มาหลายชั่วอายุคน โดยงานบุญบั้งไฟที่วัดแห่งนี้ เป็นการจุดบั้งไฟขนาดเล็ก ตัวบั้งไฟขนาด 2 นิ้ว ยาว 80 ซ.ม. จนถึงบั้งไฟหมื่น ตัวบั้งไฟขนาด 5 นิ้ว ยาว 1.5 เมตร โดยกำหนดการจุดบูชาพระยาแถน 2 วัน ตอนช่วงบ่ายวันที่ 24 และ 25 พฤษภาคม รวมบั้งไฟที่จุดราว 200 บั้ง และจะมีการจัดขบวนแห่บั้งไฟแต่ละตำบลไปรอบเมือง อ.กุมภวาปี ด้วย
นายวัลดี เปิดเผยว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านจนมาเป็นกำนันมากว่า 20 ปี มีประเพณีบุญบั้งไฟที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ตนเกิดมาถึง 47 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์บั้งไฟตกลงในเขตชุมชนเมืองกุมภวาปี โดยบั้งไฟที่จุดทุกปีจะตกลงในหนองหานกุมภวาปี หรือทะเลบัวแดง แต่ปีนี้ช่วงงานประเพณีมีฝนตก ทำให้ลมเปลี่ยนทิศ และกรรโชกแรงในบางครั้ง ทำให้บั้งไฟที่มีขนาดเล็กถูกแรงลมพัดตกลงในเขตชุมชนเมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลายบั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีทรัพย์สินบ้านเรือนเสียหาย และไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ หากบ้านเรือนใดได้รับความเสียหายหรือมีใครได้รับบาดเจ็บ ก็จะรายงานให้ทางเทศบาลกุมภวาปี ไปเยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบ หลังเกิดเหตุได้มีทำการปรับองศาฐานยิงบั้งไฟให้เอียงมากขึ้น เพื่อบังคับให้บั้งไฟตกลงในทะเลบัวแดง ซึ่งวันต่อมาไม่มีบั้งไฟตกใส่ชุมชนอีก โดยเรื่องที่เกิดขึ้นได้รายงานชี้แจงกับทางนายอำเภอกุมภวาปี และ รอง ผวจ.อุดรธานี รับทราบแล้ว
นายสมหวัง พ่วงบางโพ รอง ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากทาง คสช. ได้มีประกาศความปลอดภัยทางด้านอากาศ ซึ่งทางจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดแรกในภาคอีสานที่ ออกประกาศในการจุดบั้งไฟในงานประเพณีบุญเดือน 6 ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมทำความเข้าใจในการจัดงานในแต่ละแห่ง เพื่อความสอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี และความปลอดภัย จะควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างไร โดยให้นายอำเภอ ทุกอำเภอเป็นผู้ถือปฏิบัติ และจะออกใบอนุญาตได้ต้องตรวจสอบสถานที่ด้วยว่า เหมาะสมหรือไม่
"ส่วนเรื่องที่บั้งไฟตกใส่ชุมชน ทางกำนัน ต.กุมภวาปี ได้รายงานให้ทราบแล้ว ทราบว่าปีนี้ที่ อ.กุมภวาปี มีฝนตกลมกรรโชกเปลี่ยนทิศเป็นช่วง ๆ ซึ่งจังหวะลมเปลี่ยนทิศพัดเข้าชุมชน ทำให้บั้งไฟตกในเขตชุมชนหลายบั้ง แต่ไม่เกิดความเสียหายมาก ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเรื่องของการจุดบั้งไฟในงานบุญประเพณีในที่ต่าง ๆ ทางจังหวัดได้กำชับไปทางนายอำเภอทุกอำเภอที่เป็นผู้อนุญาตให้จัดงานบุญบั้งไฟว่า หลังจากที่อนุญาตให้จัดงานแล้ว ต้องออกพื้นที่กำกับดูแลเรื่องความปลอดภัย ตามประกาศของทางจังหวัดด้วย เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน"