เธอคนนี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไปเทศบาลเมืองท่าโขลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นางสาวพัชรณัฏฐ การะนันท์ เปิดเผยว่า โดยปกติถ้าเป็นชุดข้าราชการตนจะแต่งกายเรียบร้อยอยู่แล้ว ในวันที่โพสต์รูปตนใส่เสื้อข้างในคอกว้าง เวลาถ่ายภาพจะเห็น อาจเป็นที่มุมกล้อง สาเหตุของการที่แต่งการไม่เรียบร้อย เนื่องจากตนเองมีธุรกิจเป็นเจ้าของร้านอาหารและคาร์แคร์ จึงต้องถ่ายภาพเพื่อเป็นการโปรโมทร้านอยู่ทุกวัน จึงกลายเป็นเรื่องปกติ สำหรับภาพที่เป็นปัญหานั้นตนเองถ่ายในห้องทำงานส่วนตัว จึงไม่คิดว่าจะเป็นอะไรที่ร้ายแรง
วันนี้ตนเองโดนสังคมต่อว่า ก็ขอวอนว่าอย่าด่าครอบครัวตน หรือหน่วยงานต้นสังกัด เพราะตนเองมีลูก 3 คน ลูกคนโต อายุ 20 ปี ให้ดูแลร้านอาหาร ลูกคนกลางเรียนอยู่ ป. 4 ลูกคนเล็กเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ตนเลี้ยงลูกเอง เพราะหย่าจากสามี อยากให้เห็นใจกันบ้าง หากลูกโตมาถ้าเขามาเห็นคอมเม้นต์แรงๆแล้วรับได้ก็โอเค แต่ถ้าเห็นสิ่งที่คอมเม้นต์แรงๆ ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเรา บางคอมเม้นต์ก็ด่าถึงลูก ขอร้องอย่าดึงพ่อแม่ หรือ หน่วยงานมาเกี่ยว เพราะทั้งหมดนั้นตนทำด้วยตัวเอง และทุกครั้งที่ทำก็มีสติตลอด ขอโทษที่ทำไม่สุภาพ แต่ไม่ได้มีเจตนาทำให้องค์กรเสียหาย
เรื่องของการเช็คอินในเฟสบุ๊ค ก็อยากให้เข้าใจด้วยเพราะอยู่ที่ไหนก็เช็คอินอีกที่ได้ บางครั้งอยู่เชียงใหม่ก็สามารถเช็คอินที่กรุงเทพได้ บางครั้งเป็นเวลาราชการก็ต้องเช็คอินที่ทำงาน อยากให้เข้าใจกันบ้าง
สำหรับเสื้อที่หลายคนสงสัยว่าเป็นเครื่องแบบข้าราชการ แท้จริงแล้วเป็นเพียงเสื้อที่ทีมงานสั่งทำเพื่อใช้ในการปฎิบัติงานในพื้นที่ อาจมีข้อเสียที่หน้าอกเสื้อได้ปักชื่อ นามสกุล และตำแหน่ง แต่ไม่ได้มีชื่อของหน่วยงานต้นสังกัด
ส่วนเรื่องการตรวจสอบความผิด ปลัดเทศบาลเมืองท่าโขลง นางทิฆัมพร ตันวัฒนะ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า ได้เรียกข้าราชการคนดังกล่าว เข้ามาคุยแล้ว และในตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ถ้ามีความผิด ก็ต้องดูว่าผิดประด็นไหน โดยจะเข้าข่าย 2 ประเด็น คือ 1. ข้าราชการต้องสุภาพเรียบร้อย และ 2 . ข้าราชการต้องไม่ประพฤติตนให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยต้องพิจารณาจากรายละเอียด
สำหรับบทลงโทษก็ไม่ร้ายแรง เพราะไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย อาจจะเป็นการตักเตือนด้วยวาจา หรือด้วยลายลักษณ์อักษร หรือทำทัณฑ์บน โดยคณะกรรมการสอบสวนจะเป็นผู้ชี้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทางกรรมการจะสอบสวนจากเอกสาร พยานบุคคล รวมถึงจะให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการคนดังกล่าว โดยจะให้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง