วิคตอรี่ ขึ้นมารั้งรองฝูง เอ-ลีก

 
คู่นี้เล่นกันที่ เอเอเอ็มไอ พาร์ค  ในนครเมลเบอร์น โดยครึ่งแรก เล่นไปได้ 28 นาที วิคตอรี่ ซึ่งสวมชุดสีน้ำเงิน ภายใต้การคุมทีมของ เควิน มุสแค็ท อดีตนักเตะทีมชาติออสเตรเลีย ก็ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ บีซาร์ต เบริชา ยิงบอลที่เพื่อนร่วมทีมส่งมาให้ไม่เต็มเท้า แต่กลับกลายเป็นดี เมื่อบอลไปโดนเท้า เจค แม็คกิ้ง กองหลังของมาริเนอร์ส บอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูไป
ซึ่งลูกนี้ถือว่าเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของแม็คกิ้ง ส่งผลกระทบให้เบริชาไม่สามารถทำลายสถิติยิงประตูในเอ-ลีก มากสุดตลอดกาลของ อาร์ชี่ ธอมป์สัน อดีตผู้เล่นของวิคตอรี่ ซึ่งดูเกมอยู่ในบ็อกซ์ และออกอาการดีใจที่วิคตอเรียได้ประตู หรือไม่ก็ดีใจที่สถิติของเขายังไม่ได้โดนทำลาย และครึ่งแรกจบลงด้วยการที่วิคตอรี่นำอยุู่แค่ 1-0
ครึ่งหลัง นาที 50 เจ้าถิ่นหนีไเป็น 2-0 เมื่อ เจมส์ ทอรยซี่ เปิดฟรีคิกให้ เจมส์ โดนาชี่ ขึ้นโหม่งโล่งๆ เข้าไป ซึ่งนับเป็นประตูแรกของกองหลังรายนี้ที่ทำให้กับวิคตอรี่ด้วย
จากนั้นนาที 58 เจ้าถิ่นหนีห่างเป็น 3-0 เมื่อผู้เล่นมาริเนอร์ส เสียบอลบริเวณกลางสนาม แล้วบอลถูกจ่ายทะลุมาถึง ฟาฮิด คาห์ลฟัลลาห์ ส่งต่อให้ มาร์โก้ โรฮาส ยิงเข้าไปง่ายๆ
จากนั้นอีกแค่นาทีเดียว วิคเตอรี่หนีไปเป็น 4-0 เมื่อคาห์ลฟัลลาห์เปิดบอลยาวให่โรฮาส เจ้าของฉายา "กีวี แมสซี่" หลุดเดี่ยว เข้าไปยิงไม่เหลือ ซึ่งเป็นประตูที่ 2 ของโรฮาสในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 7 ในฤดูกาลนี้ของโรฮาสด้วย
แต่ก่อนหมดเวลแค่นาทีเดียว มาริเนอร์ส ตีไข่แตกเป็น 1-4  จากลูกยิงของดาวรุ่ง             เทรนท์ บูฮาเกียร์ ซึ่งนับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในเอ -ลีก ด้วย
หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบเกม เมลเบอร์น วิคตอรี่ ถล่ม เซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส ไป 4-1 
จากชัยชนะนัดนี้ทำให้วิคตอรี่ขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง มี 26 คะแนน จากการลงเตะ 12 ตามหลังจ่าฝูง - ซิดนีย์ เอฟซี 4 แต้ม สวนมาริเนอร์ส มีแค่ 9 คะแนน ยังอยู่ที่ 9 เช่นเดิม.