สำนัขข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเก็บภาษีน้ำตาลในเครื่องดื่มจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม ซึ่งผู้บริโภคจะต้องเสียภาษีร่วมด้วยเป็นจำนวน 20 เปอร์เซ็น โดยทางสำนักงานความรับผิดชอบต่องบประมาณบอกว่าการเพิ่มภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงจะทำให้เครื่องดื่มเพิ่มราคาลิตรละ 18-24 เพนนี (8-10 บาท) ซึ่งถ้าเป็นขนาดกระป๋องปกติประมาณ 6 เพนนี (2.5 บาท) สำหรับแฟนต้า และสไปรซ์ และ 8 เพนนี (3 บาท) สำหรับโค้ก และเป็ปซี่
การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารสาธารณะสุข Lancet ในเรื่องที่อุตสาหกรรมน้ำอัดลมจะตอบสนองต่อนโยบายภาษี และผลกระทบที่จะส่งถึงประชากรในอังกฤษ
คาดการณ์ว่าอาจนำไปสู่การลดจำนวนลงของโรคฟันผุได้ถึง 269,000 คน และโรคเบาหวานอีก 19,000 คน
แต่กาวิน พาร์ทิงตันผู้อำนวยการทั่วไปของสมาคมน้ำอัดลมอังกฤษกล่าวว่า"ไม่มีหลักฐานว่าภาษีที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มใดที่จะส่งผลกระทบต่อจำนวนของโรคอ้วน"