ลงทุนเปิดโชว์รูมขายรถยนต์ "เอ็มจี" คุ้มหรือไม่? ฟังความจริงจาก ผู้ลงทุนหน้าใหม่ในธุรกิจรถยนต์

      ยิ่งทำให้ตลาดอุตสาหกรรมต่างๆต้องปรับตัวกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะตลาดที่มีสินค้ามูลค่าสูง อย่างรถยนต์ ในหลายปีมานี้แสดงอาการหนักอย่างต่อเนื่องจากความซบเซาของยอดจำหน่ายที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่ในความไม่แน่นอนนี้เอง กลับมีรถยนต์ค่ายหนึ่งสวนกระแสตลาดเพราะเพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเพียงไม่กี่ปี แต่มีนักลงทุนสนใจร่วมเป็นผู้จำหน่ายแล้วทั่วประเทศค่ายรถที่ว่านั้นคือ "เอ็มจี"  

เพราะอะไรที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นใน"เอ็มจี"?

      นายพีระพงษ์ ตปนียางกูรผู้บริหารบริษัท เอ็มจี เจริญกรุง-สาทร ออโต้เซลส์ จำกัด หรือ "เอ็มจี เจริญกรุง-สาทร" ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีใจกลางกรุงเทพฯ เล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญว่าก่อนหน้านี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออก ไม่เคยทำเกี่ยวกับรถยนต์มาก่อนแต่ส่วนตัวสนใจเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว เพราะเรียนจบเกี่ยวกับวิศวกรรมยานยนต์และที่ตัดสินใจลงทุนกับ "เอ็มจี" เพราะเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศอังกฤษที่ก่อตั้งมานานได้ยินชื่อเสียงรถยนต์มีคุณภาพมาตลอด จึงมองว่าสามารถบุกเบิกตลาดรถยนต์ในประเทศไทยได้ไม่ยากประกอบกับเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของนักลงทุนคือ กลุ่มซีพีซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ของไทย และ SAIC MOTOR บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีนเมื่อวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว มองเห็นทิศทางและความเป็นไปได้ในการทำตลาดจึงตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจรถยนต์เป็นครั้งแรกนี้อย่างไม่ลังเล

      "แม้จะเป็นการทำธุรกิจรถยนต์ครั้งแรกและเอ็มจียังใหม่มากในเมืองไทยยังมีคนไทยจำนวนมากไม่รู้จัก แต่เราก็มั่นใจที่ตัดสินใจร่วมลงทุน ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมตัวแทนจากเอ็มจีที่เข้ามาให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายทิศทางตลาด และแนวทางการดำเนินงานเป็นอย่างดี ทำให้เรามั่นใจ และส่วนตัวได้ทดลองขับด้วยตัวเองรู้สึกประทับใจในสมรรถนะที่ดีมาก เป็นรถที่มีช่วงล่างดี เกาะติดถนน มีความปลอดภัยสูงที่สำคัญคือราคา สิ่งที่ลูกค้าได้รับในราคาที่จ่ายไป เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่ามาก จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถเรียกความสนใจและความเชื่อมั่นได้จากคนไทย"นายพีระพงษ์ กล่าว

     เอ็มจีเจริญกรุง-สาทรเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม 2559 ถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่ต้องเดินหน้าทำความรู้จักกับคนกรุงเทพฯ  แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเกินความคาดหมายมีลูกค้าเข้ามาติดต่อสอบถามรถยนต์เอ็มจีรุ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยมียอดจำหน่ายที่โตอย่างมากในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว

     "เป็นตัดสินใจที่คุ้มค่ามากกับยอดจำหน่ายที่เกินคาดเฉลี่ยเดือนละ 35 คันเพราะเราเพิ่งเปิดศูนย์และทีมงานขายยังไม่ครบทีม แต่เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและลูกค้าคนไทยรู้จักแบรนด์มากขึ้น ยอดจำหน่ายเอ็มจีจะมีแนวโน้มที่โตขึ้นไปอีกอย่างแน่นอนจึงมีแผนจะขยายสาขาในกรุงเทพฯ เพิ่มเติม เพื่อรองรับปริมาณความต้องการและการให้บริการหลังการขายแต่ภายในปีนี้ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ได้มีแผนเดินหน้าสร้างการรับรู้ต่อศูนย์บริการแห่งนี้ให้เป็นที่รู้จักกับคนกรุงเทพฯควบคู่ไปกับพัฒนาบริการให้เป็นที่ยอมรับ ให้ลูกค้าประทับใจ และขยายทีมงานขายเพื่อเพิ่มยอดขายให้มากที่สุด" คุณพีระพงษ์ กล่าว

เส้นทางความสำเร็จอาจไม่ได้มาจากประสบการณ์เพียงอย่างเดียวแต่บางครั้งหรือบางคนก็อาจได้มาความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อและมั่นใจจะเดินหน้าไปพร้อมกัน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางสู่ความสำเร็จกับ MG ในการเป็นเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ MG คลิก http://www.mgcars.com/th/NetworkExpansion