ทั้งนี้ ถ้ามีการประสานมาก็ต้องดำเนินการว่า สถานที่เป้าหมาย 4 แห่งนั้นอยู่ที่ไหน อย่างไร และจะต้องมีการประสานกับประชาคมข่าวที่มีทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งประสานกับทางสถานทูตต้นทาง และกระทรวงต่างประเทศ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนในทางการข่าวเรื่องก่อการร้ายก็มีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว
"ในการออกหนังสือหรือข้อความในลักษณะนี้ เราต้องไปดำเนินการตรวจสอบ เช่น เขาให้เป้าหมายมา 4-5 ที่ หลังจากนั้นก็จะดูว่ามีน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำกล่าวอ้างหรือไม่ เราปฏิเสธไม่ปฏิเสธไม่ได้ในต่างประเทศก็เคยมีประเด็นลักษณะแบบนี้ออกมา ดังนั้นเลี่ยงไม่ได้ว่าอาจจะมีการบ่มเพาะอะไรบางอย่าง ซึ่งผมไม่ได้หมายถึงเรื่องก่อการร้าย อาจจะเป็นการบ่มเพาะเรื่องอื่นๆที่อยากให้เป็น เพราะโรงเรียนถือสถานที่ที่อิทธิพลทางความคิดของคนส่วนกรณีที่สถานทูตตรุกีเผยแพร่ข้อความผ่านเว็บไซต์ลักษณะนี้มีความมีน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ต้องไปดูอีกครั้ง ยกตัวอย่างตัวชี้วัดเรื่องรถติด มีการกล่าวอ้างว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก โดยใช้โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งคำนวน ซึ่งต้องไปดูว่ามันมีปัจจัยอะไรชี้วัดให้ได้ผลแบบนั้น" รองโฆษกตร. กล่าว
ด้าน พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )(กอ.รมน.) กล่าวว่า ทาง กอ.รมน.ได้รับทราบเรื่องแล้วและขณะนี้อยู่ในระหว่างให้หน่วยข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปยังกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนทั้ง 4 แห่งได้รับการรับรองรับรองวิทยฐานะตามหลักสูตรของกระทรวงฯ แต่เมื่อถูกกล่าวหา ก็ต้องมีการตรวจสอบ โดยมองว่าทางประเทศตุรกี คงไม่ได้หมายถึงความเชื่อมโยงในส่วนของสถาบันการศึกษา แต่อาจสงสัยในตัวบุคคลมากกว่า เช่น ผู้บริหาร ครู หรือ นักเรียนบางคน