พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังประชุม ว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมเกี่ยวกับการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เคยร้องขอมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นการเฝ้าระวังสถานการณ์ เฝ้าระวังมือที่3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหว ส่วนการจับกุมเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีเอสไอเท่านั้นที่จะเป็นผู้พิจารณา แต่หากมีการดำเนินการเข้าจับกุม จะใช้กำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัด นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยเท่านั้น เนื่องจากเป็นที่สาธารณะ และจะดำเนินการทันทีหากดีเอสไอร้องขอ
เมื่อถามถึงคดีพระธัมมชโย จะกระทบด้านความมั่นคงหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีมวลชนเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องเข้าไปกำกับดูแล ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหา ตนมองว่า ทุกคนเป็นคนไทยก็ควรทำตามกฎหมายบ้านเมือง
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ยังไม่กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการจับกุมในช่วงวันเวลาใด ซึ่งจะต้องมีประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และหากมีความพร้อมก็จะดำเนินการตามขั้นตอน แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางดีเอสไอได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายมาโดยตลอด
เมื่อถามว่าพระธัมมชโย ยังอยู่ที่วัดพระธรรมกายหรือไม่ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า จากรายงานที่ผ่านมา พระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัด แต่ขณะนี้จะยังอยู่หรือไม่ จะต้องรอดูขณะเข้าปฏิบัติการอีกครั้ง
นอกจากนี้ มีรายงานว่าทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเข้าจับกุม พระธัมมชโย ภายในวันศุกร์นี้ โดยจะใช้กำลัง ตำรวจภูธรจังหวัด นนทบุรี จำนวน 2 กองร้อย จังหวัดปทุมธานี 1กองร้อย และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีก1 กองร้อย ส่วนขั้นตอนจะทำการปิดประตูที่7 ไม่ให้บุคคลเข้าออก ใช้กำลังเป็นกำแพงสองชั้น และใช้การเจรจาเป็นหลัก แต่หาก การเจรจาไม่เป็นผลก็จะยังไม่ใช้กำลังเข้าปะทะ