ศัลยแพทย์ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ แถลงเมื่อวันพุธว่า คณะแพทย์ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับจากผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วและติดเชื้อเอชไอวี ให้กับผู้ป่วยที่ทนทุกข์ทรมานจากโรคเอดส์มานานกว่า 20 ปีเมื่อกว่าสองสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปลูกถ่ายตับจากผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยกันเป็นครั้งแรกของโลก นอกจากนี้ยังมีการปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาคติดเชื้อคนเดียวกันให้กับผู้ติดเชื้ออีกคนซึ่งเป็นการปลูกถ่ายไตจากผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีครั้งแรกในสหรัฐด้วย
ก่อนหน้านี้เคยมีการผ่าตัดปลูกถ่ายไตจากผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้ผู้ติดเชื้อเอชไอว่แล้วในแอฟริกาใต้
คณะแพทย์สหรัฐที่ทำการผ่าตัด เปิดเผยว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว และผู้ป่วยที่ได้รับปลูกถ่ายไตออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
ที่ผ่านมากฎหมายสหรัฐไม่อนุญาตให้ใช้อวัยวะของผู้บริจาคติดเชื้อเอชไอวีในการปลูกถ่ายอวัยวะ จนกระทั่งรัฐสภาออกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า โฮปแอคต์ ที่อนุญาตให้ทำได้และประธานาธิบดีบารัก โอบามาลงนามอนุมัติในปี 2556
จากสถิติพบว่า ในแต่ละปีสหรัฐมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 500-600 คนเสียชีวิตโดยที่อวัยวะยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีสำหรับการบริจาค และด้วยความสำเร็จของการปลูกถ่ายอวัยวะล่าสุดนี้ คาดว่าจะทำให้สามารถช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มอีกปีละเกือบ 1,000 คน