เบื้องต้นมีการกล่าวหากับนายวรยุทธ ทั้งหมด 4 ข้อกล่าวหา สั่งฟ้อง 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถช่วยเหลือผู้ถูกชน และพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง 2 ข้อหา คือขับรถเร็ว กับ เมาแล้วขับ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งสำนวนนี้ได้ส่งสรุปให้พนักงานอัยการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปต้องรอให้พนักงานอัยการพิจารณาว่า มีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ซึ่งในกรณีที่ 1 ถ้ามีความเห็นสั่งฟ้องก็ต้องแจ้งให้พนักงานสอบสวนนำตัว นายวรยุทธ มาส่งฟ้องต่อศาล กรณีที่ 2 ถ้าไม่สามารถติดตามตัวผู้ต้องหาได้ต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับ
พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ประชาชนอาจจะสับสนว่า การดำเนินคดีมีความโปร่งใสมากน้อยเพียงใด ซึ่งเรื่องนี้ทาง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว แต่จะบางประเด็นที่ต้องมีการสอบสวนต่อคือ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ มีความบกพร่องในการดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ส่วนการสอบสวนก็ยังดำเนินการต่อไป เพราะคดีหลักคือข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายยังคงอยู่ ทั้งนี้ในส่วนของกรณีข้อสงสัยว่ามีการวิ่งเต้นจนหลุดคดีนั้น ก็กำลังตรวจสอบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการสอบปากคำทายาทกระทิงแดงเพิ่มหรือยัง พล.ต.ต.ทรงพล ตอบว่า ตรงนี้ก็ต้องตรวจสอบก่อน แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ประวิงเวลา ส่วนจะมีการตรวจแอลกอฮอล์หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวน แต่เป็นที่แน่ชัดและต้องยืนยันด้วยว่าข้อหาเมาหลังขับไม่มีในข้อกฎหมาย อาจเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตามคดีนี้สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ ถ้าหากผู้ต้องหาไม่มาก็มีมาตรการในการตามตัวอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันสำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาคดีขับรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เบื้องต้นกำลังพิจารณาว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นข้อหาเกี่ยวกับขับความเร็ว อย่างไรก็ตามต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี ซึ่งล่าสุดยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแต่อย่างใด