3 ตร.แจ้งความกลับ นศ.ราชภัฎ "ขับรถชนแล้วหนี"

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษกตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดงานสืบสวน สถานีภูธรจังหวัดพิษณุโลก ทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามได้รับบาดเจ็บ 5 รายและมีการสั่งย้ายตำรวจ 3 นา ยพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาอีก 5 ข้อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) สั่งให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ดำเนินการตามกฎหมายแล้วโดยให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แม้คู่กรณีจะเป็นตำรวจก็ตาม ยืนยันไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งทุกอย่างมีที่มาที่ไปมีพยานหลักฐาน และเพื่อแสดงความโปร่งใส ได้มีการย้ายตำรวจ 3 นายและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นเกิดเหตุช่วงกลางคืน การเก็บรวมรวมพยานหลักฐานดำเนินการมาตั้งแต่วันแรก ทุกอย่างต้องทำด้วยความรอบคอบและขอเวลาในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ก่อนเหตุเกิดมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ วันนี้ยังสอบปากคำยังไม่ครบ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ส่วนข่าวที่ออกมายืนยันนักศึกษาบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย อยากบอกว่า ข่าวก็คือข่าว ขอเวลาต้นสัปดาห์หน้าตรวจสอบสำนวนคดีอีกครั้ง กรณีที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียภาพลักษณ์ก็ว่ากันไป ย้ำว่า ข่าวก็คือข่าว ต้องให้ความเป็นธรรมสองฝ่ายอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พิษณุโลก ได้แยกคดีนี้ออกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องของคดีเฉี่ยวชนที่มีปัญหากันมาก่อนหน้านี้ กับเรื่องกลุ่มตร. 3 นาย ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยิงใส่รถ และมีการข่มขู่
ด้าน พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องได้รับการคุ้มครองแล้วอยู่ ถ้าหากกระทำนอกกฎหมายที่กำหนดก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง ถ้าผิดต้องถูกดำเนินคดี ตำรวจทุกนายได้รับการฝึกตามระเบียบวินัยอยู่แล้ว เนื่องจากมีข้าราชการตำรวจจำนวนมาก ถ้าหากผู้รักษากฎหมายละเมิดกฎหมายต้องถูกเป็นผู้ต้องหา ทุกอย่างมีหลักการมีขั้นตอนตรวจสอบทั้งระบบ แต่ถ้าสรุปแล้วนายตำรวจดังกล่าวมีความผิดทางวินัยก็ต้องถูกไล่ออกไม่มีข้อยกเว้น นิ้วร้ายต้องตัดทิ้งให้หมดตามที่ ผบ.ตร. เคยกล่าวไว้