บรรดาต้นไม้เหล่านี้ กำลังจะสร้างสีสัน และนำชีวิตใหม่มาสู่ท่าเรือริจน์ฮาเวน ในโครงการบอบบิ้ง ฟอเรสท์ ที่เปิดตัวไปเมื่อวันพุธที่๋ผ่าน เนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ บริษัทมาเธอร์ชิป ที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ คาดว่า ต้นไม้ทั้ง 20 ต้นนี้ จะใช้เวลาราว 10 ปีที่จะโตอย่างเต็มที่
เยอโรน เอเวอราท (Jeroen Everaert) ผู้ก่อตั้งบริษัทมาเธอร์ชิป เล่าว่า บรรยากาศของท่าเรือแห่งนี้ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก แต่จากนี้ไปที่นี่จะเป็นเหมือนสวนสาธารณะ ที่คนมาทำกิจกรรมร่วมกัน ในอนาคตพวกเราจะสามารถขี่จักรยานเหนือน้ำผ่านป่านี้ไปได้
บริษัทมาเธอร์ชิป ศึกษาวิจัยโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2555 โดยกลุ่มนักศึกษาเพื่อกาว่าต้นไม้ชนิดไหนจะสามารถอยู่รอดได้ในทุ่น ทนต่อแรงลม อุณภูมิ และคลื่นได้
หลังจากการทดลองประบความสำเร็จเมือปี 2557 ก็พบว่าต้นดัดช์เอล์ม ต้านทานต่อน้ำเค็มส่วนทุนจากทะเลนอร์ด ซี ก็ทนต่อแรงลมได้ โดยแต่ละทุ่นนั้น สร้างให้ใต้ทุ่นเก็บน้ำได้ 600 ลิตร เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับต้นไม้ โครงการนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงาน 'In Search of Habitus' โดย จอร์จ บาคเกอร์ ศิลปินดัดช์ ซึ่งเกิดในโคลัมเบีย
WHIM บริษัทสถาปนิกของเนเธอร์แลนด์ อยู่ระหว่างทำโครงการ ที่มีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนบริเวณที่เป็นน้ำในเมืองรอตเทอร์ดัม ให้เป็นแท่นที่ลอยน้ำได้ ด้วยผลิตจากขยะพลาติก เรียกว่าสวนรีไซเคิล ที่เป็นเหมือนพื้นที่เขียว ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่สีเขียวมีจำนวนลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งการที่เราปรับปรุงใช้พื้นที่เหนือผิวน้ำ ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทั้งยังเป็นการปรับปรุงระบบนิเวศและใต้น้ำ
โครงการ Bobbing Forest จะมีระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี และมากที่สุด 10 ปี ซึ่งในอนาคตนั้นจะเป็นการทำให้ศิลปะและธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ชาวเมืองรอตเทอร์ดามมากยิ่งขึ้น