มือขวาซูจี จะคว้าตำแหน่งประธานาธิบดี

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่มีสมาชิกรวมกัน 657 เสียงลงมติเลือกประธานาธิบดีในการประชุมสองสภาร่วมกันวันนี้ โดยเลือกจากผู้สมัคร 3 คนที่ได้รับการเสนอชื่อจากสองสภาและกองทัพ โดยคนที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ส่วนอีกสองคนเป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 1 และ 2 ตามลำดับคะแนน
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือ NLD ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว และครองเสียงข้างมากในสองสภารวม 390 เสียง แสดงความมั่นใจว่า นายถิ่น จอ คนใกล้ชิดของนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ซึ่งจะเป็นประธานาธิบดีพลเรือนคนแรกที่มาจากการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตย
ถิ่น จอ วัย 69 ปีเป็นประธานบริหารมูลนิธิขิ่น จี ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลส่งเสริมสุขภาพและการศึกษา ตั้งชื่อตามชื่อมารดาของซูจี เขามีเชื้อสายมอญ จบการศึกษาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน เคยเป็นส.ส.ของ NLD ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2533 เขายังขับรถให้ซูจีด้วย จึงเห็นเขาอยู่ข้างกายเธอเสมอ
นางซูจี ซึ่งไม่มีโอกาสชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้เพราะติดข้อบังคับในรัฐธรรมนูญ เลือกเขาด้วยเหตุผลเรื่องความจงรักภักดี การศึกษาและประสบการณ์
ประธานาธิบดีคนใหม่จะเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 เม.ย.หลังประธานาธิบดีเต็ง เส่งพ้นวาระในวันที่ 30 มี.ค.
ส่วนนายเฮนรี วาน เทียว จากกลุ่มชาติพันธุ์"ชิน" ที่เสนอชื่อโดย NLD เป็นตัวแทนจากวุฒิสภา อาจได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 2 หลังจากมีเสียงทักท้วงจากฝ่ายทหารเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากเขาเคยอยู่ในต่างประเทศถึง 6 ปี
ขณะที่ พล.ท.มยินต์ ส่วย นายทหารเกษียณอายุราชการ ที่เสนอชื่อโดยกองทัพ มีแนวโน้มจะได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 1 เขาเป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ. อาวุโส ตาน ฉ่วย อดีตผู้นำสูงสุดของรัฐบาลทหารเมียนมาร์ แต่เขาอยู่ในบัญชีดำการคว่ำบาตรของสหรัฐ และรัฐบาลสหรัฐกำลังจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ไม่ระบุว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตหรือไม่