เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ. ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการจับกุม นายอาร์ตูร์ หรือ อาเธอร์ เซการา ปรินเซป ชาวสเปน ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ นายเดวิด เบอนาร์ด นักธุรกิจชาวสเปน ณัฐธร
พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ในแม่น้ำเจ้าพระยาหลายจุด ทั้งใน บช.น. และ บช.ภ.1 เจ้าหน้าที่ก็สืบสวนจนรู้เบาะแส โดยเฉพาะเมื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ก็ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ณัฐธร กับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ ดำเนินการประสานงานสืบสวน โดยตั้งแต่แรกทางสเปนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้ข้อมูลทุกด้านทุกๆเรื่องของนายอาร์ตูร์ และ นายเดวิด กระทั่งทีมสืบสวนลงพื้นที่หาพยานหลักฐานในคดีทั้ง โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดและวัตถุพยานในที่พักอาศัย เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้ทั้งหมด จนสามารถนำมายื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับได้
สำหรับเรื่องการปลอมแปลงเอกสารที่ทางการประเทศสเปนออกมหายจับและประสานกับเราก็มีเพียงอาร์ตูร์คนเดียวที่มีความผิดเรื่องนี้ ส่วนผู้ตายไม่พบว่ามีความผิดแต่อย่างใด โดยภายหลังได้รับการประสานรับตัวนายอาร์ตูร์จากทางการกัมพูชา ก็ได้เดินทางไปรอรับที่ จ.ตราด เมื่อพบก็มีการซักถามในหลายประเด็นที่น่าจะเป็นมูลเหตุหรือแรงจูงใจให้ก่อเหตุ ซึ่งถามไปหมดแล้ว แต่นายอาร์ตูร์ไม่ตอบ ซึ่งบอกแค่ว่าเป็นเพื่อนกัน รู้จักกัน แต่ตามแนวทางการสืบสวนนายอาร์ตูร์เป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ผู้ตายมากที่สุด มิหนำซ้ำในเมื่อบอกว่าเป็นเพื่อนตาย พอเพื่อนหายไป เพื่อนเสียชีวิต ทำไมไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำไมต้องหนีเตลิดเปิดเปิงไป
ผมเชื่อมั่นในทีมสืบสวนและทีมสอบสวน โดยเฉพาะทีมสืบสวนก็เป็นชุดเดิมที่ทำงานกับผมมาในงานสืบสวนโดยตลอด ผมว่าเรามาไม่ผิดทาง มีความเป็นไปได้มากกว่า 70% แนวทางสืบสวนตอนนี้ยังมีนายอาร์ตูร์คนเดียวที่เป็นผู้ต้องหา แต่ก็ต้องทำทุกมิติ ขยายผลให้รอบด้าน หากมีใครเกี่ยวข้องในการกระทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน เราต้องสอบสวน ซักถามให้ละเอียดอีกครั้ง โดยมีทั้ง พล.ต.อ.ปัญญา และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว
รายละเอียดต่างๆ เป็นเทคนิคเรื่องการสืบสวน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทุกอย่าง หรือแม้แต่เปิดเผยพยานหลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายจับได้ ผู้ต้องหาไม่จำเป็นต้องรับสารภาพ ซึ่งถึงแม้จะปฏิเสธ แต่เรามีพยานหลักฐานเอาผิดได้ เรื่องนี้ต้องทำให้รอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นคดีเกี่ยวกับบุคคลต่างชาติ ผบ.ตร. กล่าว
สำหรับนายอาร์ตูร์พูดภาษาไทยได้ แต่ไม่พูด เห็นรูปภาพ ได้ยินการสนทนารู้เรื่องหมด แต่พอซักถามก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าเป็นเพื่อนเท่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ไม่อยากให้ข่าว หรือให้ข้อมูลจนทำให้ตัวผู้ต้องหาตั้งหลักได้ เพราะอย่างที่บอกเขารู้ภาษาไทย และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเชื่อว่านายอาร์ตูร์ สามารถลงมือคนเดียวได้
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องหากับผู้ตายก็เป็นฐานะเพื่อน โดยนายเดวิด เข้าออกไทยมาได้ประมาณ 1 ปี ส่วนใหญ่ที่มาก็จะมาหานายอาร์ตูร์ แรงหรือเหตุจูงใจขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนก่อน และไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มากจริงๆ
ด้าน พล.ต.อ.ปัญญา กล่าว่า ตอนนี้สอบปากคำพยานไปมากกว่า 10 ปาก ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีใครบ้าง เรื่องนี้เจ้าหน้าที่มีกระบวนการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ซึ่งตามกฎหมายภายหลังจับกุมตัวแล้วก็ต้องดำเนินการภายใน 48 ชั่วโมง โดยต้องทำให้เรียบร้อย การรวบรวมหลักฐานมีความคืบหน้าไปมาก และวันนี้(8 ก.พ.) ได้นำวัตถุพยานมอบให้กองพิสูจน์หลักฐานเพิ่มเติมเป็นชุดที่สอง เพื่อให้ตรวจพิสูจน์ว่ามีบุคคลอื่น หรือมีใครที่ร่วมกระทำผิดหรือไม่ สำหรับสิ่งต่างๆ ที่นำมาประกอบกันเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้กระทำผิดตามข้อหาที่ศาลอนุมัติในครั้งนี้
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยาน โดยเฉพาะ น.ส.ปริศนา แสนอุบล เพื่อนสาวคนสนิทของนายอาร์ตูร์ ก็ให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมาก มีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่เอาผิดต่อนายอาร์ตูได้ สำหรับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นก็เป็นเหตุจูงใจมาจากเรื่องเงิน แต่ยังไม่สามารถบอกในรายละเอียดได้ ตอนนี้ยังขอให้อยู่ในสำนวนคดีก่อน และหลังจากนี้ต้องดำเนินการสอบสวนต่อ
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทาง ผบ.ตร. ก็สั่งการ เนื่องจากส่วนใหญ่เหตุที่เกิดในพื้นที่ กทม.กับ ปริมณฑล คนร้ายก็จะหนีไปช่องทางที่ง่ายที่สุด ออกนอกประเทศที่ใกล้ที่สุดคือประเทศกัมพูชา จึงได้มีการสั่งการทุกด่าน ตม. ที่เป็นรอยต่อของประเทศไทย และประสานไปยัง ตม.ของกัมพูชาให้ช้วยตรวจสอบ มีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตลอด กระทั่งสามารถจับกุมได้
สำหรับข้อมูลของนายอาร์ตูร์นั้นได้เข้าออกประเทศไทยเกือบ 271 ครั้ง เข้ามาครั้งแรกปี 2549 ไม่รู้ว่ามีอาชีพหรือประกอบกิจการอะไร เพราะคงไม่ไปก้าวล่วงถึงฐานข้อมูลตรงนี้ ขระที่หมายจับประเทศสเปนเกี่ยวกับข้อหาปลอมแปลงเอกสารที่ทางการสเปนประสานมานั้น ระบุหมายจับออกวันที่ 7 พ.ค.2558 จากศาลเมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน หากทางการสเปนต้องการตัวนายอาร์ตูร์กลับไปดำเนินคดี ก็ต้องรอให้ดำเนินคดีที่กระทำผิดในไทยก่อน เมื่อครบกำหนดอัตราโทษแล้ว ก็ค่อยผลักดันกลับประเทศไปรับโทษต่อ โดยทางเราต้องขึ้นบัญชีดำ หรือขึ้นแบรคลิสห้ามเข้าประเทศต่อไป
