พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสัมฤทธิ์หรือเสี่ยบิ๊ก ยอมรับว่าได้ไปทำธุรกรรมการเงินกับทาง สกสค. จริง และนำเงินออกมา 2,100 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดการทำธุรกรรมบางส่วนที่อาจจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อ สกสค. จากนั้นทาง สกสค.จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้มอบหมายให้แก่ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น. เป็นหัวหน้าทีมสอบสวนในคดีดังกล่าว โดยระดมพนักงานสอบสวนนครบาล เพื่อจะได้รวบรวบพยานหลักฐานประกอบการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเร็วต่อไป
"ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีที่ผู้ต้องหาเดินทางไปร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามหรือไม่นั้น ต้องสอบสวนก่อนเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ ปี 2556-2557แล้ว จึงต้องรอเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด เมื่อผลออกมาก็จะมารายงานให้ทราบเป็นระยะ"พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้นจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ก่อนเที่ยงของวันที่ 19 ม.ค.59นี้ต่อไป