รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ระบุถึงกรณีกระแสข่าวที่มีผู้ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งลอยลำเข้ามาในเขตน่านน้ำรอยต่อไทยมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันขึ้นฝั่งอยู่ที่จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย
โดยหนึ่งในชาวโรฮิงญาที่เดินทางมากับเรือ อ้างว่าทหารไทยได้ใช้ปืนขู่จะยิงเรือของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาเดินทางต่อไป ยืนยันว่า รัฐบาลไทยมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนที่จะไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบใดยึดหลักการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม รวมทั้งได้มีการตรวจสอบกับทหารทุกนายที่ปฏิบัติการช่วยเหลือในคืนนั้น
ซึ่งไม่มีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ตามคำกล่าวอ้างอย่างแน่นอนข้อเท็จจริงคือ เมื่อตรวจสอบพบเรือของผู้ลักลอบ ได้มีการสอบถามพูดคุยพบว่าทั้งหมดต้องการเดินทางต่อไม่ประสงค์จะขึ้นฝั่งไทยโดยร้องขออาหารและน้ำดื่ม
พล.ต.สรรเสริญ ยังบอกว่าข้อเท็จจริงคือนอกจากทหารเรือไทยจะให้อาหารและน้ำดื่มตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ยังช่วยซ่อมเครื่องยนต์เรือที่ชำรุดให้ตามที่ร้องขอซึ่งต้องดำเนินการถึงตีสามกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจในวันนั้น
ดังนั้นหากคิดจะใช้กำลังข่มขู่ขับไล่ก็ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องไปสอบถาม ไปให้การช่วยเหลือจนค่อนคืน และในวันนั้นก็มีสื่อมวลชนเป็นพยาน มาบันทึกภาพเหตุการณ์การช่วยเหลือด้วยความตั้งใจของทหารเรือไทย รัฐบาลไทยรู้สึกเจ็บปวดกับคำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยและทำให้ทหารเรือไทยซึ่งทุ่มเท แม้จะได้รับการกล่าวร้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการที่นานาชาติจะเข้าใจประเทศไทยผิด แต่รัฐบาลไทยยังจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติต่อผู้เคลื่อนย้ายโดยไม่ปกติเหล่านี้ โดยหากอยู่ในเขตนอกน่านน้ำไทยก็จะให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม