svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ประชุมยูเอ็นป่วน หลังทูตเกาหลีเหนือวอล์กเอาต์

01 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ในการประชุมเรื่องสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นเมื่อวานเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อนักการทูตเกาหลีเหนือแย่งพูดตอนที่ผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือเล่าถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือจนทูตสหรัฐต้องปราม และทูตเกาหลีเหนือไม่พอใจ เดินออกนอกห้องประชุมไป

ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นในการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก ที่มีการเชิญชาวเกาหลีเหนือซึ่งอพยพยมาอยูู่ในสหรัฐ 3 คนเข้าร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือและอีก20 คนเข้าร่วมรับฟัง โดยมีนักการทูตเกาหลีเหนือ 3 คนเข้าร่วมประชุมด้วย 
และหลังจากชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ โจเซฟ คิม เล่าถึงเรื่องที่พ่อของเขาอดอยากจนตายตอนที่เขาเพิ่งมีอายุแค่ 12 ปี และชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบากของตัวเอง นักการทูตของเกาหลีเหนือ รี ซอง-โชล อ่านคำแถลงที่เตรียมมายาว 6 นาทีเพื่อตอบโต้ทันที ทั้งที่ถึงคิวที่ผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือคนที่สองต้องพูด และมีผู้เข้าประชุมคนหนึ่งตะโกนภาษาเกาหลี คำว่า หุบปาก ปลดปล่อยเกาหลีเหนือ คิมจองอึนจงล่มสลาย และแม้แต่สัตว์ยังรู้ว่าควรต้องรอเวลาของตัวเองถึงค่อยพูด 
หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น บอกให้ผู้แทนเกาหลีเหนือรีบจบการพูด แต่เมื่อผู้แทนเกาหลีเหนือยังพยายามพูดต่อ เธอจึงขอให้ปิดไมโครโฟนของเขา ต่อมาเธอได้ขอให้เขารีบสรุป มิฉะนั้นจะเชิญตัวเขาออกนอกห้อง และนักการทูตเกาหลีเหนือตะโกนบอกว่า นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในสหรัฐในแต่ละวัน  ขณะที่โจเซฟ คิม กล่าวว่า อยากขอให้นักการทูตเกาหลีเหนือรับฟังเรื่องราวชีวิตประชาชนเกาหลีเหนือบ้าง  จนสุดท้ายนักการทูตเกาหลีเหนือทั้ง 3 คนยอมเดินออกจากห้องไป
เอกอัครราชทูตสหรัฐ กล่าวภายหลังว่า นักการทูตเกาหลีเหนือได้รับแจ้งว่าจะได้พูดหลังผู้อพยพเกาหลีเหนือทั้งสามคนพูดจบ แต่เขากลับแย่งพูดหลังผู้อพยพคนแรกพูดจบเพื่อปิดโอกาสการเปิดเผยความจริงของผู้อพยพ ซึ่งเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง 
ส่วนนักการทูตเกาหลีเหนือเผยกับผู้สื่อข่าวด้านนอกห้องประชุม โดยกล่าวว่า เหตุการณ์ฆาตกรรมคนผิวดำผู้บริสุทธิ์ทั้งในบัลติมอร์และเฟอร์กูสันในสหรัฐเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าสหรัฐเป็นเจ้าแห่งการละเมิดสิทธิมนุษยชนตัวจริง และการประชุมที่จัดขึ้นเป็นการจัดฉากละครการเมืองที่นำเสนอเพียงด้านเดียว
เกาหลีเหนือกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักเรื่องสิทธิมนุษยชน และเมื่อปีที่แล้วสมัชชาใหญ่ยูเอ็นออกมติเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยื่นฟ้องที่ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศกล่าวโทษเกาหลีเหนือในคดีก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

logoline