นายนริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก(สคฝ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ที่การคุ้มครองเงินฝากจะลดลงเหลือ 25 ล้านบาท จากขณะนี้ได้รับการคุ้มครอง 50 ล้านบาท และในวันที่ 11 สิงหาคม 2559 วงเงินคุ้มครองเงินฝากจะเหลือเพียง 1 ล้านบาทนั้น ได้มอบให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากไปเร่งเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องการคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากเงิน และประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ที่มีการลดคุ้มครองเงินฝากเหลือ 50 ล้านบาทจากการคุ้มครอง 100 % นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการฝากเงิน และบัญชีของผู้ฝากเงินแต่อย่างใด
ทั้งนี้ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีเงินในบัญชีประมาณ 1.1 แสนล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีเงินไหลเข้าจากเงินนำส่งในระดับ 0.01% จากยอดเงินฝาก ซึ่งจำนวนเงินขณะนี้เพียงพอที่จะนำมาใช้ดูแลผู้ฝากเงิน
และเท่าที่ประเมินพบว่าสถาบันการเงินของไทยมีความเข้มแข็งมาก มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ในระบบเพียง 2.35% มีกำไรสุทธิถึงสิ้นไตรมาส 3 ปี 2557 ถึง 1.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มีอัตราส่วนของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(บีไอเอส)เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.14% จากปีก่อนที่ 16.55% ซึ่งถือว่ามั่นคงมาก และระดับบีไอเอสของสถาบันการเงินยังสูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนดไว้ 8% มาก
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้อำนวยการสคฝ.กล่าวว่า สคฝ.จะมีการหารือกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อให้ทางธนาคารพาณิชย์ช่วยทำความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์กับผู้ฝากเงินถึงการลดความคุ้มครองเงินฝากลง เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกเกี่ยวกับการลดความคุ้มครองเงินฝากลง
อย่างไรก็ตามเท่าที่ติดตามบัญชีของผู้ฝากเงิน ไม่ได้พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจากกรณีลดการคุ้มครองเงินฝากทั้งช่วงที่ลดจาก 100% เหลือ 50 ล้านบาท และในช่วงนี้ที่กำลังลดเหลือ 25 ล้านบาท
โดยขณะนี้การฝากเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ประมาณ 66.9 ล้านราย วงเงินฝาก 10.8 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการนับรวมบัญชีในแบงก์ 1 รายต่อแบงก์ เพราะการคุ้มครองเงินฝากจะคิดต่อแบงก์ต่อรายหากมีบัญชีในแบงก์ เอ 10 บัญชีจะได้รับความคุ้มครองรวมกันเป็น 1 ราย แต่ถ้ามี 3 แบงก์จะได้รับความคุ้มครอง เป็น 3 รายเป็นต้น
ทั้งนี้การลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทนั้นถือว่าคุ้มครองผู้ฝากเงินกว่า 98.23% เพราะพบว่ามีผู้ฝากเงินระดับไม่เกิน 1 ล้านบาทถึง 65.7 ล้านราย คิดเป็นยอดเงินฝากเพียง 2 ล้านล้านบาท
ซึ่งการลดความคุ้มครองเงินฝากลงเป็นทิศทางเดียวกับในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการดูแลผู้ฝากเงินให้ดียิ่งขึ้น สคฝ.อยู่ระหว่างเสนอปรับปรุง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2521
ในส่วนของกระบวนการจ่ายเงินคืนแก่ผู้ฝากเงินเพื่อให้ผู้ฝากได้รับความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยแก้ไขกฎหมายให้ผู้ฝากไม่ต้องมายื่นคำขอพร้อมพยานหลักฐาน เพื่อที่สคฝ. จะได้จ่ายเงินคืนให้ผู้ฝากเงินทันที หากมีสถาบันการเงินล้มหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาติ ตรงนี้จะทำให้ผู้ฝากเงินได้รับเงินคืนไม่เกิน 7 วันเหมือนกับในต่างประเทศ จากปัจจุบันขั้นตอนของกฎหมายต้องใช้เวลาในการติดต่อและให้เวลาในการพิจารณาคืนเงิน 4-6 เดือน