นายกเทศมนตรีปารีส จะฟ้องฟ็อกซ์ นิวส์

สถานีข่าวฟรองซ์ แวงกัทเทรอะ (France 24) รายงานอ้างถ้อยแถลงของ อานน์ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีสว่า กรุงปารีสเตรียมยื่นฟ้องสถานีข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ของสหรัฐ หลังจากออกอากาศบทสัมภาษณ์ ที่ประเมินเมืองหลวงของฝรั่งเศสว่า "เขตห้ามไป" ที่ตำรวจและคนที่ไม่ใช่มุสลิมไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไป
ฮิดาโก ยังให้สัมภาษณ์คริสเตียน อามันพัวร์ ผู้สื่อข่าวและพิธีกรชื่อดังของ CNN ด้วยว่า ฟ็อกซ์สบประมาทกรุงปารีส และเมื่อเราถูกสบประมาณ เราก็ต้องฟ้อง เรื่องต้องไปถึงศาล เพื่อให้ลบคำสบประมาทพวกนี้เสีย ภาพลักษณ์ของปารีสถูกทำให้เสียหาย และศักดิ์ศรีของปารีสถูกมองอย่างอคติ
ก่อนหน้านี้ฟ็อกซ์ นิวส์ ได้ออกมาขออภัยแล้วต่อเหตุการณ์ที่มีการสัมภาษณ์นายโนแลย ปีเตอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่สงบหลังการยิงโจมตีสำนักงานของนิตยสารแนวเสียดสี "ชาร์ลี เอ็บโด" ที่เขาเปรียบเทียบหลายเขตในกรุงปารีสกับกรุงแบกแดดของอิรักและความเห็นของเขา ยังถูกขานรับโดยนายไนเจล ฟาเรจ หัวหน้าพรรค UKIP ของอังกฤษ ที่มีแนวคิดต่อต้านอียู ที่ให้ความเห็นต่อฟ็อกซ์ นิวส์ว่า คำว่า "เข้มห้ามไป" เข้ากันได้ดีกับ "สลัมใหญ่ๆ"ที่กำลังผุดขึ้นทั่วยุโรป
ฟ็อกซ์ถูกเย้ยหยันต่อความเห็นที่เป็นอคติต่อเมืองหลวงของฝรั่งเศส สถานีโทรทัศน์บางช่องในฝรั่งเศส เช่น เลอ เปอตี ชูนาล ส่งทีมงานไปสัมภาษณ์ประชาชนในย่านที่ฟ็อกซ์บรรยายภาพเป็นลบว่า พื้นที่ที่พวกเขาอยู่ถูกเรียกว่า "เขตห้ามไป" และเผยให้เห็นสีหน้าของคนเหล่านั้น เมื่อรู้ว่า เมืองที่เขาอยู่ถูกเปรียบเทียบกับอิรักและอัฟกานิสถาน
ฟ็อกซ์ยิ่งเสียหน้า เมื่อมีการสัมภาษณ์นายสตีฟ อีเมอร์สัน ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มมุสลิมในยุโรป จากเมืองเบอร์มิงแฮม ของอังกฤษ ที่เขาบอกว่า ทั้งเมืองเต็มไปด้วยชาวมุสลิม และคนไม่ใช่มุสลิมไม่ควรเข้าไป แต่จากตัวเลขสำมะโนประชาการของอังกฤษ เมื่อปี 2554 ชี้ว่าเมืองเบอร์มิงแฮม มีชาวมุสลิมแค่ 21 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่มีอยู่ 21 เปอร์เซ็นต์ เช่นกัน ที่บอกว่าพวกเขาไม่ได้นับถือศาสนาใด ซึ่งเมื่อเอาตัวเลขของสองประเภทมารวมกัน ก็ยังไม่เท่าจำนวนคนที่บอกว่าตัวเองเป็นคริสเตียน
ชาวเมืองเบอร์มิงแฮม ใช้ทวิตเตอร์เยาะเย้ยฟ็อกซ์ นิวส์ ด้วยการติดแฮชแท็กว่า "ฟ็อกซ์นิวส์แฟ็คส์" (#FoxNewsFacts) รวมถึงภาพบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ทรงสวมผ้าคลุมพระเกศา ที่พระองค์มักจะทรงสวมในช่วงลมแรงและมีฝน พร้อมกับคำบรรยายในเชิงเสียดสีว่า พระองค์ทรงถูกบังคับให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม
และในขณะที่ถูกเย้ยหยันและล้อเลียนทั้งในอังกฤษและฝรั่งเศส ฟ็อกซ์ แสดงความรับผิดชอบด้วยการ "ขออภัยอย่างลึกซึ้งต่อความผิดพลาด" แต่ก็อ้างว่า เป็นเพียงการเตือนให้รู้ว่ายังมีหลายพื้นที่มีการก่ออาชญากรรมสูงในยุโรป เหมือนกับในสหรัฐและอีกหลายประเทศที่ตำรวจและผู้ไปเยือนควรให้ความระมัดระวัง