แม่ฮ่องสอน-ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีไม้บ้านทุ่งป่าคา เฉลิมพระเกียรติ

ที่เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มาเป็นประธานในพิธีปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีพระชนมพรรษา ครบ 87 พรรษา ร่วมกับทางนางสาวปิติกาญจน์  สิทธิเดช รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.อ.จรัส ปัญญาดี ผบ.ฉก.ร7  พ.ต.พยุงศักดิ์ ชาญกล้า นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน ฉก.ทพ.36 นายเล็ก ศรีเรือง นายอำเภอแม่สะเรียง 
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายให้ดำเนินการโครงการเชิงรุก ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องขัง ที่ยากไร้ ไม่มีเงินประกันตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แก้ปัญหาลดความแออัด นอกเหนือจากการพักการลงโทษ การลดวันต้องโทษจำคุก โดยใช้เงินกองทุนยุติธรรมของกระทรวงยุติธรรมเป็นหลักประกัน ในการนี้มีผู้ต้องขังอยู่ระหว่างพิจารณา คดีที่เข้าหลักเกณฑ์และมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ยื่นความจำนง สมัครใจ ขอรับเงินกองทุนยุติธรรม เพื่อเป็นหลักประกันในการขอปล่อยชั่วคราว คดี พ.ร.บ.ป่าไม้ จำนวน 19 คน ในความผิดฐานมีไม้ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต
ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่บ้านทุ่งป่าคา ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน รวมเป็นเงิน 6,300,000 บาท แต่สามารถปล่อยผู้ต้องขังชั่วคราวได้เพียง 16 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 19 คน เนื่องจากอีก 3 คน มีโทษเกินอำนาจการพิจารณาของศาลจังหวัดแม่สะเรียง เพราะอัตราโทษสูงเกิน 3 ปี 
ประกอบไปด้วย นายวิโรจน์ เขตผาติสังขร ต้องโทษจำคุก 5 ปี 6 เดือน นายสุรพล ผาแดงสง่า ต้องโทษจำคุก 7 ปี และ นายพะลอย ปัญญาพีระพล ต้องโทษจำคุก 4 ปี ทางเจ้าหน้าที่จึงส่งเรื่องไปยังศาลอุทรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาดำเนินการ พร้อมกันนี้ผู้ต้องขังชั่วคราวบ้านทุ่งป่าคาทั้งหมด ได้ ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและปฏิญาณตนเป็นพลเมืองที่ดี ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับของผิดกฏหมาย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายอีกต่อไป 
นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ไม่ได้รับการประกันตัวออกมาชั่วคราวครั้งนี้เพราะเกินอำนาจของศาลของแม่สะเรียง ศาลชั้นต้นมีอำนาจให้ประกันตัว ในคดีความผิดไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น คนที่ความผิดเกินกว่านั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ ซึ่งยุติธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ขอประกันตัวต่อศาลอุธทรณ์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และต้องให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5  ธ.ค. 
สืบเนื่องจากวันที่ 29 ต.ค.2557 ที่ศาลจังหวัดแม่สะเรียง ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาคดี กรณีชาวบ้านกะเหรี่ยง หรือปกาเกอะญอ หมู่บ้านทุ่งป่าคา ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 39 คน มีไม้สักหวงห้ามไว้ในครอบครอง โดยมีคำตัดสินว่า ให้ชาวบ้าน 24 คน ต้องโทษจำคุก 1-7 ปี ไม่รอลงอาญา และอีก 15 คน ให้จ่ายค่าปรับคนละ 10,000 - 20,000 บาท ตามจำนวนไม้ที่ครอบครอง
โดย 2 คนในจำนวน 15 คน ได้เสียชีวิต คดีดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากนโยบายปราบปรามไม้สาละวิน โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2557 เจ้าหน้าที่ทหารสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าพร้อม ทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าตรวจสอบไม้สัก ในหมู่บ้านทุ่งป่าคา และพบไม้สักอยู่ในการครอบครองของชาวบ้าน จึงได้ดำเนินคดีกับชาวบ้านที่เป็นเจ้าของไม้ อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้เหตุผลว่าไม้ที่พบนั้นเป็นไม้ที่เตรียม สำหรับต่อเติมบ้านเท่านั้น ไม่ได้ครอบครองไว้เพื่อการค้าขายให้นายทุนแต่อย่างใด