" โค้ชเช " ไม่กดดันหากทีมไทย พบ เกาหลีใต้

ความเคลื่อนไหวของทีมเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้ หลังเดินทางมาปรับสภาพร่างกายและสภาพอากาศล่วงหน้าถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งเวลานี้ทีมไทยยังปักหลักฝึกซ้อม ที่เมืองคังวา ห่างจากเมืองอินชอนประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ภายใต้การควบคุมของ "โค้ชจอมเฮี้ยบ" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ก่อนจะเดินทางเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬาในวันที่ 27 ก.ย.นี้ จากนั้นวันที่ 28 ก.ย.จะเป็นการประชุมผู้จัดการทีมและจับสลากแบ่งสายประกบคู่ พร้อมชั่งน้ำหนักตัววันที่ 29 ก.ย.และเริ่มชิงชัยวันแรก 30 ก.ย.ถึงวันที่ 3 ต.ค. ทั้งนี้จอมเตะไทยมีคิวลงสนามลุ้นเหรียญทองถึง 4 คน จาก รุ่น 49 กก.หญิง "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ อดีตเหรียญทองแดงโอลิมปิก, รุ่น 53 กก.หญิง "น้องหยิน" สริตา ผ่องศรี อดีตเหรียญทองอชก.16 ที่กวางโจว, รุ่น 87 กก.ชาย "เจ้าร็อค" ณัฐภัทร ตันตรามาตย์ อดีตเหรียบญทองแดงเยาวชนโลก และ รุ่น 74 กก.ชาย "เจ้าต่อ" พีระเทพ ศิลาอ่อน ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่พม่าล่าสุด "โค้ชเช" เช ยอง ซอก เปิดเผยว่า เวลานี้ทุกคนพร้อมและสมบูรณ์เต็มที่กับภาระกิจใหญ่ครั้งนี้ แม้ว่า จะมีบางคนน้ำหนักตัวเกินไปบ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 1-2 กก. เชื่อว่า ก่อนเดินทางเข้าหมู่บ้านนักกีฬาแต่ละคนจะทำน้ำหนักได้พอดี ทุกวันนี้ทั้งเช้าและเย็นจะมีการทบทวนเทคนิคต่างๆให้กับทีม รวมไปถึงการแก้ไขจุดบกพร่อง แถมยังได้ระมัดระวังเรื่องการบาดเจ็บและเรื่องอาหารการกินต้องมีประโยชน์ เพราะไม่อยากให้นักกีฬาที่ซ้อมหนักมาตลอดทั้งปีต้องมาตกม้าตายก่อนแข่งขันแค่ไม่กี่วัน พร้อมเชื่อมั่นว่า จอมเตะทั้ง 11 คนมีลุ้นเหรียญทองอย่างแน่นอน โดยเฉพาะวันแรกที่ลงแข่งขันทั้ง 4 คนนั้น คือ ชนาธิป ซ้อนขำ, สริตา ผ่องศรี,  ณัฐภัทร ตันตรามาตย์ และ พีระเทพ ศิลาอ่อน น่าจะประเดิมเหรียญให้กับทัพเทควันโดไทยได้อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการจับสลากแบ่งสายประกบคู่ในวันที่ 28 ก.ย. เป็นสำคัญด้วยว่า นักเทควันโดไทยจะโชคดีพบกับคู่แข่งขันที่อ่อนชั้นกว่าหรือไม่ ในทางตรงกันข้ามหากเราไม่มีโชคและต้องไปพบกับคู่ต่อสู้ชาติต้นตำรับ อย่าง เกาหลีใต้ ก่อนในรอบแรกๆ ส่วนตัวได้ย้ำนักกีฬาเสมอว่า อย่าไปกลัว หรือดูถูกฝีเท้าตัวเอง ให้คิดเสียว่า เป็นการวัดฝีมือกันไปเลย เพราะถ้าหากนักกีฬาไทยเอาชนะมาได้ รอบต่อไป ก็ไม่ต้องกลัวนักกีฬาจากชาติอื่นแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นตัวเองรู้ภาษาเกาหลีและอังกฤษเป็นอย่างดี ไม่ว่า โค้ชคู่ต่อสู้จะสอนอะไรมา ตัวเองสามารถสอนนักกีฬาแก้เกมได้ทันที เพราะคู่ต่อสู้สำคัญในเอเชียมีแค่ เกาหลีใต้, อิหร่าน, จีน และ ไต้หวัน เท่านั้น ยิ่งนักกีฬาชุดนี้หลายคนมีดีกรีและผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนทั้ง ซีเกมส์, ชิงแชมป์เอเชีย, เอเชี่ยนเกมส์, ชิงแชมป์โลก และ โอลิมปิกเกมส์ น่าจะเอาตัวรอดได้ ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นว่า จะต้องคว้า 1 เหรียญทองให้ได้ตามเป้าหมาย