จับน้ำมันเถื่อนริมฝั่งกว่า 3 แสนลิตร ค่ากว่า 70 ล.บ.

ที่บริเวณท่าเทียบเรือสงวนสิน ม. 3 ต.เกาะเปริด (เกาะ-เปริด) อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ศปนม.ตร.),น.อ.ก้องเกียรติ ทองอร่าม ผู้บังคับหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนตราด ทัพเรือภาคที่ 1 ,น.อ.กษิดิศ อินทรวิรัตน์ รองเสนาธิการ ป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด,พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รอง ผบช.ก.) และ นายสมหมาย วิเชียรฉันท์ รอง ผวจ.จันทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจน้ำ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม เรือบรรทุกน้ำมัน ทองวัฒนา 9 ของกลุ่มขบวนการลักลอบขนน้ำมันเขียว หรือ น้ำมันเถื่อน เข้ามาจำหน่ายนอกเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร บริเวณปากอ่าวชายทะเล แถบพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด พร้อมของกลางเป็นเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 1 ลำ น้ำมันเขียว หรือน้ำมันยกเว้นภาษี จำนวน 370,000 ลิตร พร้อมผู้ต้องหาเป็นคือ นายชัยยัน สุดสงวน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 ม.1 ต.เกาะเปริด (เกาะ-เปริด) อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี และแรงงานกัมพูชา จำนวน 5 คน นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมเรือประมง ขณะมารับซื้อ และขนถ่ายน้ำมันเถื่อน อีกจำนวน 3 ลำประกอบด้วย เรือสงวนสินทร์ พาณิชย์ 4 ,เรือสงวนสินทร์พาณิชย์ 28 ,และเรือลาภสินธุ์ชล 7 ได้ผู้ต้องหาแรงงานกัมพูชา อีกจำนวน 5 คนพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การจับกุมเรือบรรทุกลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ในครั้งนี้ เป็นการสนธิกำลังร่วมกันระหว่าง กองทัพเรือภาค 1 หมู่ลาดตระเวนชายแดนตราด โดยเรือ ต-223 , ศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเรือหลวงกันตรัง โดยได้ดำเนินการจับกุม นายชัยยัน สุดสงวน ไต๋เรือบรรทุกน้ำมัน ทองวัฒนา 9 พร้อมกันลูกเรือจำนวน 5 คน ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบจำหน่าย น้ำมันเขียว หรือ น้ำมันยกเว้นภาษี ซึ่งอนุญาตจำหน่ายให้เฉพาะชาวประมง ในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร แต่กลุ่มขบวนการลักลอบนี้ กลับนำขึ้นมาจำหน่ายให้กับลูกค้า บริเวณชายฝั่ง โดยการลักลอบจำหน่ายให้กับชาวประมงในพื้นที่ ช่วงเวลากลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ สามารถตรวจยึด ได้ทั้งเรือบรรทุกน้ำมัน และน้ำมันเขียว รวมปริมาณ 370,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าเรือและน้ำมันของกลางรวมกว่า 70 ล้านบาท โดยแจ้งข้อหาหลีกเลี่ยงน้ำมัน ที่ยังไม่ได้เสียภาษีศุลกากร เข้ามาในราชอาณาจักร และจำหน่ายให้กับผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการสอบสวน เบื้องต้น นายชัยยัน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทำให้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ในการขยายผลไปต่อยังขบวนการ ของผู้มีอิทธิพล ชื่อ เจ๊โอ ไม่ทราบชื่อและสนามสกุลจริง ซึ่งมีประวัติการลักลอบนำเข้า น้ำมันหนีภาษีเข้ามา ในราชอาณาจักร โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจาก การแจ้งข่าวของภาคประชาชน ประกอบกับฐานข้อมูลเครือข่ายผู้กระทำผิดและผู้มีอิทธิพล ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการสืบสวนกันมาอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การจับกุมในครั้งนี้ จะสามารถนำไปสู่การขยายผล เพื่อจัดการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย และกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางภาคตะวันออก ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า จะนำตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด