เผยเงินสะพัดสงกรานต์ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,233 ตัวอย่าง ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค-4 เม.ย. 2557 พบว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีแนวโน้มไม่คึกคักเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดแค่1.16 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา2.36% ถือเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ4ปี นับตั้งแต่ที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี2553 ซึ่งปีนั้นมีการขยายตัวติดลบอยู่ที่ 4.67%สาเหตุที่เงินสะพัดน้อยเพราะประชาชนส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับการเมืองมากที่สุด65.6%ส่งผลให้การใช้จ่ายย่นย่อลง รองลงมา คือ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ64.3% และเหตุรุนแรงจากการชุมนุม64.2% ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลสงกรานต์กร่อยและซึมตัวลงสำหรับที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ส่วนใหญ่นำเงินออมออกมาใช้มากถึง 36.8% รองลงมาเป็นเงินเดือน หรือรายได้ประจำ 28.9%และเงินโบนัส 14.1% และที่น่าสังเกตคือปีนี้มีารกู้เงินทั้งในและนอกระบบเพื่อนำมาใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากถึง 20.1% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีแค่ 9.7%ขณะเดียวกัน ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับทัศนะต่อสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันจะส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยมากน้อยเพียงใด พบว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นจะมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายมากที่สุด 16.6% กระทบมาก 26.6%, กระทบปานกลาง 33.6% และกระทบน้อย 10.9% เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนยังมีความระมัดระวังการใช้จ่ายมากถึง 47.7% ระมัดระวังปานกลาง 35.2%, กระทบน้อย 14.1% และไม่กระทบเลย 3%อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีการวางแผนเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 โดยมีการวางแผนไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างพื้นที่ รวมทั้งมีการวางแผนกลับบ้านและไปท่องเที่ยวรวมกันกว่า 69.5% ซึ่งปีนี้พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากถึง 94.1% ส่วนการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมีเพียง 5.9%ทางที่เดินทางไปก็จะอยู่ในกลุ่มอาเซียน