
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตุการณ์พระสงฆ์ กลุ่มแม่บ้านและผู้สูงอายุชุมชนวัดเชียงทอง บ้านศาลา ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำ ตุงธง ตุงเสียบเงิน ตุงสายผ้า โคมผ้า ตลอดจนลวดลายและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมที่ใช้ในการประดับประดาตบแต่งตามวัดวาอารามและสะเปา หรือเรือสำเภา ที่ชาวล้านนามักจะใช้ในการทำพิธีอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษตลอดจนเครือญาติสนิทมิตรสหายที่ได้ล่วงลับตายจากไปแล้วให้ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำอุทิศส่วนบุญไปให้ โดยเชื่อว่าผู้ได้รับจะได้อยู่ดีมีสุข และส่งเสริมคุ้มครองบุตรหลานอยู่ดีมีสุขด้วยอันประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาลล้านนา นับวันสูญหายทางกลุ่มแม่บ้านและผู้สูงอายุจึงได้ร่วมอนุรักษ์สืบทอดไว้ให้คนรุ่นหลังต่อ
วิธีการทำตุงธง จะมีไม้ไผ่แหลมยาวขนาด1คืบ แล้วพับด้วยกระดาษสี แล้วติดธงกระดาษ สีต่างๆ ,วิธีการทำตุงเงิน หรือไม้ เสียบธนบัตร ก็จะพันด้วยกระดาษสีต่างๆ ,การทำตุงผ้าจะตัดผ้าสีต่างๆขนาดแล้วแต่จะเลือก นำมาเย็บเก็บมุมผ้าและเย็บติดกับเชือกร้อยเป็นพวงระย้ายาวๆ,การทำกระดาษลวดลาย หรืออุปกรณ์ อื่นๆ ก็จะทำด้วยมือทั้งสิ้น หลังจากนั้นก็จะนำไปประดับตามต้นคา ที่เสียบด้วยไม้หนีบด้วยธนบัตร เพื่อนำมาทำบุญหรือถวายพระตามวัดวาอารามต่างๆ
สำหรับสะเปาหรือ (เรือสำเภา) ที่ชาวล้านนาเชื่อว่าหากทำบุญตานหรือทำบุญทาน เรือสะเปาแล้ว ทั้งผู้ให้และผู้รับจะได้รับอานิสงค์ผลบุญของการทำบุญอย่างยิ่งใหญ่เพราะว่าการทำบุญด้วยเรือสะเปานั้นเปรียบเสมือนกับการนำเอาสิ่งของเครื่องทั้งหมดที่เราต้องการจะเอาให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้ใช้ก็จะทำบุญด้วยการทำบุญด้วยเรือสะเปาเพราะเหมือนเรือล่องลอยไปจนถึงผู้รับอันเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของชาวบ้านชุมชนวัดเชียงทอง ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
พระครูพระครูไพจิตธรรมาภรณ์ (อดุลย์) เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง กล่าวว่า ทางวัดเชียงทอง พร้อมด้วยกลุ่มแม่บ้านและผู้สูงอายุชุมชนวัดเชียงทอง บ้านศาลา ได้ร่วมกันทำอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีงานบุญที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณนั้นก็คือการทำ สะเปา (เรือสำเภา) ตุงธงหรือตุงกระดาษ ตุงไม้เสียบเงินหรือธนบัตร ตุงผ้า โคมผ้า กระดาษลวดลาย และอื่นซึ่งเป็นชิ้นงานเล็กแต่สำคัญ จึงได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานกัประเพณีไว้ ก่อนจะสูญหายไป และทีสำคัญเป็นฟื้นฟูรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดกันต่อว่างานบุญประกอบด้วยอะไรที่ใช้ในการทำบุญ