ถ่ายรูปให้ฉ่ำที่ งานดอกไม้ปาร์คนายเสิศ เทศกาลที่คนรักศิลปะและดอกไม้รอคอย

“งานดอกไม้ปาร์คนายเสิศ ครั้งที่ 35” เป็นงานแสดงดอกไม้ประจำปีที่ได้มีการสืบสานต่อตำนานงานดอกไม้แห่งแรกของ
ประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ตระการตามากที่สุด โดยท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ผู้ก่อตั้งโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ เป็นผู้ริเริ่มจัดงานดอกไม้ขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2529 และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ซึ่งท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ เป็นผู้ที่มีความรัก และความเข้าใจในการดูแลรักษาพันธุ์ไม้เป็นอย่างดี จากการปลูกฝังของ นายเลิศ เศรษฐบุตร หรือพระยาภักดีนรเศรษฐ ผู้เป็นบิดา
เจ้าของปาร์คนายเลิศ หรือสวนสาธารณะเอกชนแห่งแรกของเมืองไทยอีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจรถเมล์ขาวและเรือเมล์อันเลื่องชื่อ

 

 

 

กว่า 35 ปี ที่งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ จัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการสืบทอดงานศิลปะวัฒนธรรมไทยและงานหัตถศิลป์จากชุมชน
สู่บุคคลทั่วไป ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่นำเสนอด้วยดอกไม้นอกจากนี้งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศยังเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่ได้พัฒนาทักษะทางด้านงานศิลปะและงานฝีมือผ่านการประกวดประติมากรรมดอกไม้และการจัดสวน เพื่อต่อยอดและส่งเสริมอาชีพให้เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงในระดับประเทศและนานาชาติ 

 

 

งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศครั้งที่ 35 แบ่งเป็น กิจกรรมทั้ง 5 โซน ดังนี้

1. FLOWERS X ART

เต็มอิ่มกับงานศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้นานาพันธุ์ผสานงานปากะศิลป์จัดแสดงทั่วพื้นที่ของปาร์คนายเลิศ
ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความตระการตาของ พรมดอกไม้และเมล็ดธัญพืชขนาดใหญ่ ในคอนเซ็ปต์ Blossoming Culinary Art โดย คุณศักดิ์ชัย กาย ครีเอทีฟและนักจัดดอกไม้ชื่อดัง สร้างสรรค์งานชิ้นเอกด้วยศิลปะผสมผสานความงามของดอกไม้สดหลากห
ลายสายพันธุ์ เข้ากับเมล็ดธัญพืชและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร
ให้กลายเป็นพรมขนาดใหญ่กว่า 500 ตารางเมตรที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากศาสตร์และศิลป์การประกอบการ ผสมผสานกับศิลปะวัฒนธรรมไทย ประติมากรรมดอกไม้จากพันธมิตรธุรกิจของปาร์คนายเลิศกว่า 20 ผลงานให้ได้เต็มอิ่มกับการถ่ายภาพคู่กับดอกไม้งามเต็มพื้นที่จัดงานผสมผสานกับวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่สวยงามและมีความทันสมัย

 

2. FLOWERS X EXHIBITION

ชื่นชมงานศิลปะสุดสร้างสรรค์และกิจกรรมการประกวดบอนสีหลากหลายพันธุ์ โดยเปิด บ้านปาร์คนายเลิศ เรือนไม้สักทองอายุกว่า 109 ปี ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ อาทิ
Beeswax Castle ปราสาทผึ้งศิลปะพื้นถิ่นจากจังหวัดสกลนคร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือน 11หรือวันออกพรรษา เป็นความเชื่อของชาวสกลนคร ในการสร้างปราสาทผึ้งเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและเชื่อว่าการแห่ปราสาทผึ้งยังเป็นการทำบุญที่ได้กุศลใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับและเป็นการรวมพลังความสามัคคีของชาวบ้านแต่ละคุ้มวัดในการออกแบบปราสาทผึ้ง หล่อเทียนพรรษา

 

 

แกะสลักต้นผึ้งเป็นลวดลายไทยอย่างสวยงามที่รังสรรค์โดยช่างฝีมือสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นโดยในงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศครั้งที่ 35
ได้นำแรงบันดาลใจจากการสร้างปราสาทผึ้งมารังสรรค์เป็นงานศิลปะชิ้นใหม่ที่ยังคงใช้วิธีการดั้งเดิมในการทำชิ้นงานพร้อมสร้างสรรค์ด้วยลวดลายวิจิตรในรูปแบบศิลปะร่วมสมัยและมีความเป็นสากล อาทิ ศิลปะในรูปแบบศิลปะแบบบารอก (Baroque)
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความหรูหรามั่งคั่งทางวัตถุ ผสมผสานกับศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) หรือนวศิลป์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากลวดลายและเส้นสายอ่อนช้อยของดอกไม้และพืชนาน
าพรรณ กลายเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะอาร์ตนูโวทำให้ชิ้นงานมีความสวยงามและละเอียดอ่อนและยังคงเอกลักษณ์ของปราสาทผึ้งตามเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นไทยที่ส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่

 

 

สำหรับลวดลายที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของปราสาทผึ้ง ได้แก่

1. Oak Leaf and Acorns
ใบและผลของต้นโอ้คเป็นลายที่นิยมเอามาทำลวดลายในงานศิลปะต่างๆ โดยเฉพาะลายแกะสลักไม้ ลายผ้า และยังมีความหมายมงคลมั่งคั่ง แข็งแรง งอกงาม

2. Fleur-de-lis หรือ Lily flower เฟลอร์เดอลี หรือ ดอกลิลลี
เป็นสัญลักษณ์ที่แปลงมาจากดอกลิลลีหรือดอกไอริสที่ใช้ในการตกแต่งและมีความหมายเชิงสัญลักษณ์มากมาย
อาจจะเป็นได้ทั้งสัญลักษณ์ทางการเมือง ทางการสืบเชื้อสาย
ทางศิลปะ ดวงตราสัญลักษณ์ และตราประจำตระกูล เป็นต้น

 

Blossoming Fashion and Textile Design Exhibition

ชุดเสื้อผ้าทำจากวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่สามารถรับประทานได้
ภายใต้แนวคิด Blossoming Culinary Art โดยนำวัตถุดิบ อาทิ วุ้นเส้นสาหร่ายเทา ดอกไม้จีน โป๊ยกั๊ก ใยบวบ แผ่นแป้งข้าวเจ้า เส้นหมี่เหลืองลูกชิด ฯลฯ ผสานการทอผ้าและเทคนิคทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้วัตถุดิบต่างๆสามารถขึ้นรูปเป็นชุดแฟชั่นร่วมสมัย ออกแบบโดยนักศึกษาชั้นปีที่ 2สาขาวิชาศิลปะการออกแบบ พัสตราภรณ์ จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

 

Contemporary THAI Masterpieces

งานศิลปะจากการแกะสลักผักและผลไม้ ผสมผสานงานทำขนมอบจากน้ำตาลและเจลาติน (ฟองดอง)ด้วยฝีมืออันประณีตงดงามที่ยังคงเอกลักษณ์ของศิลปะไทยนำเสนอในรูปแบบสร้างสรรค์ร่วมสมัย จากโรงเรียนการเรือน
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

Flower Decoration by Soul Floristry

นักจัดดอกไม้รับเชิญจากประเทศสิงคโปร์ได้ออกแบบและร่วมนำเสนอดอกไม้และวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพิธีบายศรีสู่ขวัญสำหรับการเข้าชมนิทรรศการบนบ้านปาร์คนายเลิศ จะแบ่งเป็นรอบ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น รอบละ 45 นาที และพักการชมรอบละ 15 นาที รวมวันละ 11 รอบ จำกัดการเข้าชมรอบละไม่เกิน 50 ท่านโดยท่านที่ประสงค์จะเข้าชมสามารถมาลงชื่อจองรอบการชมได้ที่บริเวณหน้าทางเข้าหลักฝั่งหลุมหลบภัย

 

Caladium Contest

ตื่นตากับกิจกรรมการประกวดบอนสีหลากสายพันธุ์ โดยสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาบอนสีแห่งประเทศไทย ชิงเงินและถ้วยรางวัล
มูลค่ากว่า 50,000 บาท โดยการแข่งขันมี 4 ประเภท
ประเภทที่ 1 : บอนสีประเภทด่างป้าย
ประเภทที่ 2 : บอนสีประเภทลูกไม้ใหม่
ประเภทที่ 3 : บอนกอธรรมชาติ
ประเภทที่ 4 : บอนสีลูกไม้ใหม่ พันธุ์ปาร์คนายเลิศ เพื่อเป็นเกียรติแก่ปาร์คนายเลิศ

 

3. FLOWERS X MARKET

ห้ามพลาดช้อปปิ้งสินค้า งานศิลปะ และอาหารอร่อย ที่คัดสรรเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

Food Market โซนร้านอาหารอร่อย ที่คัดสรรร้านดังจากทั่วประเทศไทยมารวมไว้ภายในงาน

Art Market โซนร้านค้างานศิลปะ และงานคราฟต์

Fashion Market โซนร้านแฟชั่น เครื่องประดับ ผ้าไหม
มีให้เลือกช้อปได้ครบทุกสไตล์

Plant Market โซนร้านค้าประเภทต้นไม้และสินค้าตกแต่งสวน

 

4. FLOWERS X TASTE

ลิ้มชิมรสอาหารจากดอกไม้ ภายใต้บรรยากาศแสนสวยของดอกไม้และงานศิลปะอันงดงาม

Lady L

ห้องอาหารยุโรปสไตล์โฮมเมดรูปแบบ Farm to Table
เสิร์ฟความสดด้วยเมนูอาหารจานอร่อยพร้อมด้วยเมนูสุดพิเศษที่นอกจากจะอร่อยแล้วยังสนุกไปกับ DIY Pizza พิซซ่ารูปแบบพิเศษที่ให้คุณ และคุณหนูๆสามารถออกแบบหน้าพิซซ่าได้ด้วยตนเอง มีให้เลือก 3 รายการ ได้แก่Margherita, Hawaiian และ Mozzarella ท่ามกลางประติมากรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยกระดาษแนวใหม่ของศิลปินรุ่นใหม่ รักษิต บุญนาค กับผลงาน “Cry of the Forest”ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของป่าที่ถูกทำลาย
ทำให้สัตว์ป่าต้องมาอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ในโลกปัจจุบันเสมือนสัตว์เลี้ยงที่พบเห็นได้ทั่วไป สำหรับห้อง Lady L Marble จัดเป็น Winter Garden รายล้อมด้วยสวนดอกทิวลิปหลากสีละลานตา 
ซึ่งดอกทิวลิปดังกล่าวเป็นผลผลิตจากการนำพลังงานความเย็นเหลือใช้จากกระบวนการแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลวมาใช้ในการปลูกไม้เมืองหนาว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพต่อยอดด้านการเกษตร 

 

Ma Maison

ห้องอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ นำเสนอ
“เมนูอาหารพิเศษตามธาตุเจ้าเรือน” เพื่อสุขภาพตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยในตำราอายุรเวทโบราณภายในร้านตกแต่งบนโต๊ะอาหารด้วยเครื่องสมุนไพรไทยนานาชนิด ด้านนอกรื่นรมย์กับพรรณไม้หลากชนิดตกแต่งอย่างงดงามคนโบราณจะกินอาหารตามฤดูกาลจากพืชผักและผลไม้เพื่อให้มีสุขภาพดีและป้องกันโรคภัยโดยใช้หลักพิจารณาของธาตุเจ้าเรือนดังนี้
- ธาตุดิน สำหรับคนเกิดเดือน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม
- ธาตุน้ำ สำหรับคนเกิดเดือน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน
- ธาตุลม สำหรับคนเกิดเดือน เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน
- ธาตุไฟ สำหรับคนเกิดเดือน มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม

 

Caviar Café

ร้านอาหารสุดหรูสำหรับนักชิมผู้หลงใหลในเมนูคาเวียร์เสิร์ฟคู่อาหารจากดอกไม้สร้างเสน่ห์ให้กับอาหารรสเลิศเมนูพิเศษสำหรับงานดอกไม้เสิร์ฟมาในคอนเซ็ปต์ Spring Flower เมนูอาหารรสเลิศที่ออกแบบให้คุณลิ้มรสของฤดูใบไม้ผลิ พร้อมด้วย
Canapé หลากรูปแบบเมนูคาร์เวียร์พอดีคำ จัดเซ็ตพิเศษ Tasting
Menuเฉพาะงานนี้เท่านั้น 

 

École Ducasse Bangkok Café

คาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสตำรับเชฟดาวมิชลินระดับโลก แนะนำเมนูขนมหวานครัวซองต์เลื่องชื่อทานคู่ไอศกรีมรสชาติใหม่ที่คิดค้นมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะและเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษสำหรับช่วงเวลางานดอกไม้ปาร์คนายเลิศนี้เท่านั้น

 

L’Artisan Chef’s Table, École Ducasse Nai Lert BangkokStudio

พร้อมเสิร์ฟเมนูพิเศษโดยความร่วมมือกับ 6 เซเลบริตี้เชฟชื่อดัง ได้แก่ Chef Arnaud Dunand Sauthier จาก Maison Dunand, Chef Tap Supasit Kokpol จาก Coda, Chef Antonio Cortes Barenque จาก École Ducasse Nai Lert Bangkok Studio, Chef Knock Pat-In Promsawadi จาก INT, Chef Gerard Villaret Horcajo จาก Elementsinspired by Ciel Bleu และ Chef McDang – ML Sirichalerm Savsti

 

École Ducasse Nai Lert Bangkok Studio ร่วมกับ Culinary ArtsThailand

จัดเวิร์กชอปอาหารคาวและหวานสุดสนุก ที่ใครก็สามารถทำได้- École Ducasse - Culinary Arts Thailand  - Culinary Arts Thailand 

 

 

5. FLOWERS X PLAY

สนุกสนานกับหลากหลายกิจกรรมตลอดทั้งวัน
Workshops กิจกรรมเวิร์กชอปสำหรับทุกเพศทุกวัย ได้แก่
การทำขนมผกากรองงานแกะสลักด้วยลวดลายไทยและทำพิมเสนน้ำจากสมุนไพรและดอกไม้ ณ บริเวณห้องเอ็กซิบิชั่น แกลเลอรี่ ใต้บ้านปาร์คนายเลิศ โดยมีรอบเวลา
10.00 – 12.00 น, 13.00 – 15.00 น และ 16.00 – 18.00 น

Kids Activities กิจกรรมสำหรับเด็ก อาทิ โบโซ่บิดลูกโป่ง
เพ้นต์หน้าแฟนซี และสนุกกับตุ๊กตามาสคอต “น้องรถเมล์ขาว” ที่เด็กๆ จะพบปะ ถ่ายรูป ได้ตลอดทั้งวัน

Live Music การแสดงดนตรีสดท่ามกลางสวนดอกไม้ยามเย็น โดยในวันที่28-29 มีนาคม 2567 เวลา 16.30-17.30 น. และ
18.00-19.00 น. เพลิดเพลินไปกับดนตรีไพเราะจากศิลปิน และพิเศษในวันที่ 30-31 มีนาคม 2567 เวลา 16.30-17.30 น. และ 18.00-19.00 น. พบกับ “Queen on Street” ศิลปินเด็ก
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังบนโลกโซเชียลมีเดีย บินตรงมาจากจังหวัดภูเก็ตเพื่อมาสร้างสีสันความบันเทิงในงานนี้โดยเฉพาะ
งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศครั้งที่ 35