
12 มิถุนายน 2566 สายมูเตลู ไม่ควรพลาดตะลุย “ถ้ำนาคี” ชมหินเกล็ดพญานาค เทือกเขาภูลังกา กับตำรวร 7 มหัศจรรย์ ล่าสุดพบช่วงวันหยุดสุดคึกคัก
นครพนม เป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อายุกว่า 2,500 ปี ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า และพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์ก พญานาคริมฝั่งแม่น้ำโขง
นอกจากนี้จังหวัดนครพนม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่เป็นเส้นทางศรัทธาของ “สายมู” ผู้ศรัทธาพญานาค คือ ถ้ำนาคี บนเทือกเขาภูลังกา เขตดูแลรักษาของอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว
ล่าสุด “ถ้ำนาคี” นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาตะลุยกันอีกครั้ง หลังอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้ประกาศปิดฤดูกาลเพื่อปรับปรุงเส้นทางเป็นเวลา 1 เดือน และกลับมาเปิดให้ท่องเที่ยว ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวคึกคัก โดยเฉพาะช่วงวันหยุด
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้เปิดบริการแบบวอล์คอินขึ้น “ถ้ำนาคี” สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน มั่นใจว่าสามารถรองรับบริการได้เพียงพอ วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน
ส่วนอัตราค่าบริการ มีค่าใช้จ่ายคนละ 30 บาท นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ไกด์อาสา คอยบริการ แนะนำเส้นทาง ส่วนค่าบริการสำหรับไกด์ครั้งละ 300 บาทต่อนักท่องเที่ยว 7-8 คน
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง คาดว่าจะคึกคักยาวไปถึงช่วงฤดูหนาว ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวในพื้นที่ เชื่อกันว่าไม่เพียงชมความสวยงามรูปแล้ว ยังได้มากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เส้นทางสายศรัทธาพญานาคอีกด้วย
สำหรับเทือกเขาภูลังกาเล่าขานกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานความเชื่อ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยป่าไม้เบญจพรรณมาแต่อดีต มีเนื้อที่มากกว่า 30,000 ไร่ เนื้อที่ครอบคลุมอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ทอดยาวไปยัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นเทือกเขาที่มีตำนานลี้ลับ ได้แก่
ทั้งนี้ ถ้ำนาคา ฝั่ง จ.บึงกาฬ และ ถ้ำนาคี ฝั่ง จ.นครพนม ลักษณะหินไม่ต่างกันแม้แต่นิดเดียว เพราะอยู่บนเทือกเขาลูกเดียวกัน หากจะเปรียบเทียบกันให้เข้าใจได้ง่าย คือ ทั้งสองถ้ำอยู่คนละฝั่งจังหวัด สามารถเดินไปบรรจบกันได้ ขึ้นอยู่ว่าร่างกายต้องแข็งแรงพอสมควร เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงได้ตั้งชื่อถ้ำทั้งสองแห่งชื่อคล้ายกัน แต่มีความหมายอันเดียวกัน ที่สำคัญยังมีความสวยงามไม่แพ้กัน
อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องเล่าความเชื่อของถ้ำทั้งสองแห่งนี้ คือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะมีรูปร่างลักษณะเป็นงูยักษ์มีเกล็ดหินสวยงามลงตัว คดเคี้ยวไปตามหุบเขา และบางจุดยังมีลักษณะคล้ายหัวงูขนาดใหญ่ จึงกลายเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว โดยถ้ำนาคยังมีเส้นทางไม่ไกลนัก เดินเท้าจากที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูลังกา ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เป็นเส้นทางผจญภัยเดินเลียบเลาะไปตามป่าเขา บางช่วงต้องไต่บันไดลิง
ก่อนขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาถ้ำนาคี ระหว่างทางยังจะได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติดอกไม้ป่านานาพันธุ์ และฝูงผีเสื้อพันธุ์หายาก ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
ขณะที่โสมภูลังกาก็เป็นสมุนไพรหนึ่งเดียวในโลก ขึ้นเฉพาะที่เทือกเขาภูลังกาเพียงแห่งเดียว และเล่ากันว่าในเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์ หนุมานเหาะมาหายาชื่อสังกรณีตรีชวาที่ยอดเขาสรรพยา ต้นสังกรณีตรีชวาก็คือโสมภูลังกา เขาสรรพยาก็คือเทือกเขาภูลังกานั่นเอง
นอกจากนี้ในเส้นทางเดียวกัน จะได้เห็นสายน้ำบางจุดไหลลอดใต้ก้อนหินไปโผล่อีกแห่งหนึ่ง ลักษณะคล้ายน้ำตก ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูลังกา และมีหินลักษณะคล้ายเศียรหรือหัวนาคี คล้ายพญานาคก้มหัวลงมาพ่นน้ำ อีกทั้งในเส้นทางยังจะได้ชื่นชมความสวยงามของผานาคี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก
รวมทั้งสามารถชื่นชมความสวยงามของ น้ำตกธรรมชาติ อาทิ น้ำตกไทรงาม น้ำตกผาสวรรค์ และ น้ำตกตาดโพธิ์ ที่ไหลลงจากภูลังกา สู่ลำห้วยหล่อเลี้ยงเกษตรกรปลูกพืชและชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภคตลอดปี รวมมีจุดท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจถึง 9 จุด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 042 530 766