
เรียกว่าถูกเวลาพอดีกับ การปรนมาตรการเดินทาง เข้าฮ่องกงของนักท่องเที่ยว งานนี้หากคุณผู้อ่านท่านใด เลือกเดินทางมาใช้เวลาเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีที่กำลังจะมาถึงนี้ที่ ‘ฮ่องกง’ จึงมีตัวเลือกกิจกรรมให้ทำเต็มไปหมดตลอดวันตลอดคืน!
มั่นใจได้เลยว่าไข่มุกแห่งโลกตะวันออกเม็ดนี้มีหลายสิ่งให้คุณได้เพลิดเพลินไม่ว่าคุณจะเป็นขาช็อปหรือแฟนงานศิลป์ เด็กน้อยหรือคุณตาคุณยาย ช่างภาพหรือคอแอลกอฮอล์ สายปาร์ตี้หรือคนที่ชอบนอนอยู่บ้าน ช่วงวันหยุดที่ฮ่องกงจะต้องน่าจดจำสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน
เริ่มต้นด้วยคริสต์มาสสุดแหวกแนวที่ Harbour City
เริ่มวันกันอย่างครึกครื้นด้วยบรรยากาศสุดแปลก แหวกแนวของ UniChristmas ที่เต็มไปด้วยยูนิคอร์นสีรุ้งสดใสท่ามกลางต้นคริสต์มาสประดับไฟระยิบระยับและม้าหมุนแสนสวยที่ถ่ายรูปขึ้นสุดๆ ยังมีพร็อพประดับขนาดสูงเท่าคนจริงอาทิ ปีกทั้งสองข้าง หรือบัลลังก์ ที่จะช่วยเพิ่มความปังให้ภาพของคุณ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหาร และเครื่องดื่มตกแต่งในธีมยูนิคอร์นที่ทำให้การผจญภัยนี้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
เพื่อต้อนรับการผ่อนคลายข้อกำหนดการท่องเที่ยว เหล่านักท่องเที่ยวจะได้รับการต้อนรับด้วยของขวัญสุดพิเศษ ธีมฮ่องกงจาก Harbour City อาทิ ของที่ระลึกการกุศลธีมยูนิคอร์นจากป็อปอัพ สโตร์การกุศล และรับตั๋วถ่ายรูปจากโซนถ่ายรูปการกุศล เพื่อนำกำไรมอบให้มูลนิธิ Hong Kong Blood Foundation โดยห้าง Harbour City จะเปิดให้บริการถึง 12.15 น. ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า สามารถชมการแสดงสีเสียงจากกลางอ่าววิคตอเรียได้
อาหารวีแกนสุดชิค...เหมาะถ่ายลงอินสตาแกรมที่ JAJA
สำหรับประสบการณ์ใหม่ในวันหยุดแบบนี้ ขอแนะนำร้านอาหารมังสวิรัติสมัยใหม่อย่าง JAJA ที่จัดเสิร์ฟเซ็ต High Tea แสนน่ารัก อย่างเซ็ต Pink-Mas Festive และ เซ็ต Pink-Tastic Festive พร้อมบรรยากาศที่รับรองได้ว่าเหมาะกับการลงอินสตาแกรมเป็นที่สุด จำหน่ายตั้งแต่เวลา 15.00 – 17.30 น. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีเซ็ตอาหารเย็น Decadent Festive จำนวน 3 คอร์ส ที่จำหน่ายตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. อิ่มท้องไปกับ ชีสบอลรูปสโนว์แมน และขนมปังขาไก่รูปต้นคริสต์มาส และยังมีค็อกเทลที่เหมาะกับคริสต์มาสสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น Mulled Wine ชั้นสูง และ ม็อกเทลปราศจากแอลกอฮอลล์ อย่าลืมจองเซ็ตน้ำชา และอาหารเย็นไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันก่อนมารับประทานที่ร้านกันด้วย
เดินทางข้ามเวลาผ่านงานศิลป์ ณ หอนาฬิกากัมมี่แบร์ “Tick Tock, Tick Tock”
นิทรรศการ Tick Tock, Tick Tock ที่หอนาฬิกาจิมซาจุ่ยคือผลงานสตรีตอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดในชุดผลงาน Vandal Gummy ของศิลปิน WhIsbe โดยนิทรรศการนี้ได้ผสมผสานกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟไว้ อาทิ ฟิลเตอร์อินสตาแกรมที่เปลี่ยนผู้ใช้ให้กลายเป็นหมี และแอปพลิเคชัน AR ที่ทำให้กัมมี่แบร์ พาคุณท่องเที่ยวไปยังแลนด์มาร์กไอคอนของฮ่องกง นิทรรศการจะสิ้นสุดในวันที่ 1 มกราคม 2566 (เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)
Golden Hour สำหรับถ่ายรูปที่ Sky 100
ถ้าคุณชอบการชมวิวเส้นขอบฟ้าของฮ่องกงจากมุมสูง หอสังเกตการณ์ Sky100 แห่งนี้เหมาะสำหรับคุณเป็นที่สุด เมื่อขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงสู่ชั้นที่ 100 แล้ว คุณจะต้องอ้าปากค้างกับวิวสุดอลังการ 360 องศา พร้อมชม Golden Hour ที่แสงพระอาทิตย์สีทองกำลังเปลี่ยนเป็นแสงไฟในเมือง เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายในเวลา 20.30 น.
โรแมนติกท่ามกลางความมืด Christmas Town @ West Kowloon Cultural District
เมื่อถึงเวลาค่ำ อย่าลืมเดินชมต้นคริสต์มาสขนาดสูงเท่าตึก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางสนามหญ้าฝั่งตะวันตกของ West Kowloon Cultural District โดยในงาน Winterfest ยังมีหุ่นกวางเรนเดียร์ และเสาไฟสไตล์วินเทจเพื่อเป็น
แบคดรอปสำหรับรูปสวยๆ ส่วนฝั่งตะวันตกของสนามหญ้ายังมีกระท่อมตกแต่งในบรรยากาศคริสต์มาสต์อีกด้วย งาน Christmas Wonderland นี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเคาท์ดาวน์เยี่ยมยอดเพราะเปิดให้เข้าชมจนถึงเวลา 01:00 น.
จิบเครื่องดื่มเย็นๆที่ DarkSide
ทางเดินริมน้ำเกาลูนด้านบน Avenue of Stars มีบาร์ค็อกเทลสุดหรู DarkSide ที่คว้าอันดับ 13 ของบาร์ที่ดีที่สุด 50 อันดับของเอเชีย (Asia’s 50 Best Bars) เปิดประตูต้อนรับแขกตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป นอกจากวิวสวยๆ ของเส้นขอบฟ้าฮ่องกงแล้ว ยังมีเมนูมากมายให้เลือกชิม อาทิ แรร์, (Dark Spirits), รัม, วิสกี้ และ กวัลโดส (Calvados) หรือจะเป็นเมนูทดลองของ Darkside อย่างเมนูร่วมสมัยที่พัฒนาจากเมนูดั้งเดิม รวมถึงค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจจากรสชาติของฮ่องกง คุณยังสามารถเต้นรำสุดเหวี่ยงเพื่อต้อนรับปี 2566 โดยมีวงดนตรีสดช่วยสร้างบรรยากาศให้ปาร์ตี้นี้ครึกครื้นไปจนถึงเวลา 01:00 น.
เคาท์ดาวน์ที่ฮ่องกงได้ทั่วทุกมุมโลกกับงาน “Hong Kong New Year Countdown Celebrations”
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบสังสรรค์หรือชอบอยู่บ้าน กำลังเที่ยวในฮ่องกงหรืออยู่ต่างประเทศ คุณก็สามารถร่วมเคาท์ดาวน์กับงาน “Hong Kong New Year Countdown Celebrations” ที่จัดโดยการท่องเที่ยวฮ่องกงได้ การแสดงแสงสีเสียงมากมายจะเกิดขึ้นกลางอ่าววิคตอเรียซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก ในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพื่อร่วมต้อนรับปี 2566 ด้วยกัน มีการแสดงมากมาย รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกทั้งภายในงานและถ่ายทอดสดทางออนไลน์
เริ่มต้นค่ำคืนด้วย ชุดการแสดงสด (วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เวลา 23.45 น.) ได้แก่ การแสดงเปียโนจาก Niu Niu (Zhang Shengliang) นักเปียโนที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก การแสดงท้าแรงโน้มถ่วงโดยสมาชิกชมรม Hong Kong Rope Skipping และชมการตีกลองจาก มือกลองของกลุ่ม Gekko Taiko ชื่อดังในฮ่องกง โดยมีเส้นขอบฟ้าอันโด่งดังของฮ่องกงเป็นพื้นหลัง
ส่งท้ายปีเก่าด้วยผลงาน แอนิเมชันสามมิติ (วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เวลา 23.58 น.) เพื่อนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงเคาท์ดาวน์ โดยผู้ชมทั้งทางออนไลน์และทางโทรทัศน์ จะได้รับชมความหลากหลายและไดนามิคของเมืองนี้ผ่านทางภาพยนตร์สั้นที่จะสร้างความครึกครื้นให้กับบรรยากาศช่วงเคาท์ดาวน์ด้วยจังหวะกลอง แสงไฟที่เต้นไปตามจังหวะดนตรีแสนเร้าใจ
ช่วง 30 วินาทีสุดท้ายก่อนถึงเวลาเที่ยงคืน สายตาของผู้ชมจะจับจ้องไปที่อ่าววิคตอเรีย เมื่อด้านหน้าอาคาร (Façade) ของ Hong Kong Convention and Exhibition Centre (HKCEC) ได้แปลงร่างเป็นหน้าปัด นาฬิกาเคาท์ดาวน์แบบเรียลไทม์ขนาดยักษ์ (วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เวลา 23:59:30 น.) เพื่อนับถอยหลัง 30 วินาทีสุดท้ายของปี 2565 และเมื่อเวลาบอกเที่ยงคืน โชว์แสงสีเสียงก็จะถูกจุดขึ้นฟ้าอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ต้อนรับปีใหม่ด้วย การแสดงสด ณ วินาที 00:00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2566 โชว์แสนตราตรึงใจความยาว 10 นาทีนี้ สื่อถึงการเริ่มต้นปี ที่อิ่มเอมเต็มไปด้วยความหวัง และโอกาสดีๆ ในฮ่องกง เมื่ออ่าววิคตอเรียนั้นสว่างไสวขึ้นด้วยแสงสีจำนวนมากที่ร่ายรำจากหลายจุดตามด้านหน้าอ่าว แสงสีขยับได้จากอ่าวจะส่องแสงจากเรือสตาร์ เฟอร์รี่ ไปพร้อมกับพลุเย็นหลากหลายระดับบนชั้นดาดฟ้าจะถูกจุดจากด้านบนของอาคารสูงและแลนด์มาร์กต่างๆ บริเวณหน้าอ่าว