แน่นอนว่า การท่องเที่ยวของไทยต้องกลับมาคึกคักอีกระลอก เมื่อมีข่าวดีอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น เนื่องจากเม็ดเงินที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของไทย เป็นเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวนั่นเอง
ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยไว้ว่า 55% ของนักท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2550 มาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศมาเลเซียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ส่วนใหญ่มาจากสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, เยอรมนี, สหรัฐอเมริกา และสแกนดิเนเวีย ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและรัสเซียก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
วันนี้เราจะมาเปิดเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ประเทศไทยเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้คนทั่วโลก จนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 28 Best Countries
“เอกลักษณ์ไทย” ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำให้นักท่องเที่ยวต่างยินดีที่จะมาเที่ยวเมืองไทยกันมากมาย "เอกลักษณ์ของไทย" ที่ประจักษ์กันดี ได้แก่
“ยิ้มสยาม” และ “การไหว้” ถือเป็นเอกลัษณ์ประจำชาติไปแล้วก็ว่าได้ หลายคนพูดถึง “สยามเมืองยิ้ม” เมื่อมาแล้วได้รับการต้อนรับที่ดี ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจจนอยากจะกลับมาเที่ยวซ้ำอีก
“การแต่งกาย” ถึงแม้ทุกวันนี้เราจะแต่งกายตามสมัยนิยม แต่เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยนั้นก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่ว่าจะเป็น ผ้าซิ่น, ชุดไทย, ผ้าไหมไทย ก็เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สถาปัตยกรรมไทย” ความวิจิตรงดงามของโบราณสถานต่างๆ ปราสาทราชวัง, โบสถ์วิหาร ที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเห็น ต่างก็เอ่ยปากชมเป็นเสียงเดียวกัน
“ศิลปะวัฒนธรรมไทย” เรื่องราวความบันเทิงของไทย อาทิ ดนตรีไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละภาค, การแสดงโขน หรือกีฬามวยไทย ล้วนแล้วแต่เป็นที่พูดถึงของชาวต่างชาติไม่แพ้เรื่องอื่นๆ
"อาหารไทย" ความเป็นไทยที่ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก ต้องยกให้อาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ, ต้มยำกุ้ง, ผัดไทย, ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น