บรรยากาศสุดคึกคักที่ “แอปเปิ้ล สโตร์” สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ พบว่ามีสาวกไอโฟน “iPhone 14” จำนวนมากได้มารอต่อคิวรับเครื่องไอโฟน 14 ที่จับจองกันไว้เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบว่าผู้ที่มาต่อคิวซื้อ ไอโฟน 14 มีด้วยกันสองส่วน คือคนที่จองไว้ผ่านทางออนไลน์ แล้วก็คนที่ walk-in ที่มาต่อคิวซื้อ ซึ่งจากการสอบถามพบว่าคิวที่จะรอซื้อนั้นทะลุ 1,000 คิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต้องบอกว่ากระแสร้อนแรงตั้งแต่เช้ามืด เพราะ สาวก iPhone 14 ไปรอตั้งแต่ก่อนห้างเปิดเป็นจำนวนมาก ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศแรกที่ Apple วางจำหน่ายทันทีหลังงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ยินดีกับผู้ที่ได้รับเครื่องไปฉลองก่อนใคร
บรรยากาศคึกคักนี้สะท้อนความนิยมใน "iPhone 14" ได้อย่างดี แม้จะสวนกระแสเศรษฐกิจยุคนี้ไปบ้าง แต่ด้วยการพัฒนาสเปคในหลายๆ จุดทำให้การตอบรับใน iPhone 14 ไม่มีแผ่วนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน Apple Event 2022 ที่ผ่านมา
สำหรับจุดเด่นที่ Apple ได้อัพสเปคขึ้นมาให้กับ iPhone 14 มีหลายอย่าง อาทิเช่น การอัพเกรดกล้องชุดใหญ่ โดยกล้องหลักจะมีความละเอียดเพิ่มขึ้นจากเดิม 12 ล้านพิกเซล เป็น 48 ล้านพิกเซล, คุณสมบัติการตรวจจับการชนกัน, คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม และวิธีใหม่สุดล้ำสำหรับรับการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ด้วย Dynamic Island
สำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่ 9 กันยายน 2565 เป็นต้นมา เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น.
iPhone 14 เริ่มวางจำหน่าย 16 กันยายน 2565 ขณะที่ iPhone 14+ แหล่งข่าวเผยว่าน่าจะเริ่มวางจำหน่าย 7 ตุลาคม 65
นอกจากสเปคที่เพิ่มขึ้นแล้ว ราคา iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น ก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ ต้นทุนการขนส่ง ภาวะเงินเฟ้อ เงินบาทอ่อนค่าลง ผู้ซื้อ "iPhone 14" จึงต้องแบกรับภาระค่าสมาร์ทโฟนกระแสแรงตัวนี้มากสักหน่อย
โดยที่ราคาของ iPhone 14 มีดังต่อไปนี้
iPhone 14 เริ่มต้น 32,900 บาท
iPhone 14 Plus เริ่มต้น 37,900 บาท
iPhone 14 Pro เริ่มต้น 41,900 บาท
iPhone 14 Pro Max เริ่มต้น 44,900 บาท
สี iPhone 14 มีให้เลือก 5 สี ดังนี้
iPhone 14 Pro
สำหรับ ความพิเศษของหน้าจอ iPhone 14 Pro จะใช้จอภาพ Super Retina XDRใช้ระบบ จอภาพแบบติดตลอด (Always on Display)
สำหรับ ราคา iPhone 14 Pro
สีของ iPhone 14 Pro มี 4 สี ดำสเปซแบล็ค, เงิน, ทอง, ม่วงเข้ม สั่งซื้อล่วงหน้า 9 ก.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย. 2565 (วันนี้วันแรก)