สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการใช้งาน Facebook ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเฟซบุ๊กที่ใครหลายคนชื่นชอบ คือการที่เราสามารถสามารถแก้ไขโพสต์ หรือทำการ Edit ได้
แต่ทว่าความปัง หรือความพังเที่ยวล่าสุดนี้ ทีมข่าวก็ไม่แน่ใจมากนัก สำหรับการอัปเดต Facebook ครั้งนี้ อาจทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจไปทั่วโลกและต้องการแก้ไขโพสต์ ทุกคนรู้กันดีว่า หากแก้ไขไม่ได้แบบทวิตเตอร์ เราจะต้องทำการลบสเตตัสหรือโพสต์นั้นๆ ออกไปเลย
ผู้สื่อข่าวเผย ณ ขณะนี้ ยังไม่มีข่าวหรือการตอบรับจากเฟซบุ๊กในขณะนี้ สามารถเดาได้เพียงว่าเฟซบุ๊กกำลังทดสอบหรืออัปเดตอะไรอยู่ ซึ่งขณะนี้เป็นกับ Apple ที่มีการอัปเดต แอปฯเฟซบุ๊กจาก App Store
แต่ในส่วนของ ผู้ใช้ แอนดรอยด์ยังไม่มีผล รวมถึงบนเดสก์ท็อป หรือคอมพิวเตอร์ก็ยังไม่มีผลใดๆ เช่นกัน
ทำให้บรรดาเหล่า ครีเอเตอร์และผู้ใช้เฟซบุ๊กมากมายทั่วโลกในตอนนี้ หากต้องการแก้ไขโพสตอนนี้ในไอโฟน, ไอแพด จะไม่สามารถทำได้ และต้องหาคอมพิวเตอร์หรือมือถือแอนดรอยด์ มาเพื่อแก้ไขโพสต์ชั่วคราวแทน และยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าการอัปเดตครั้งนี้!!
ย้อนเวลาไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน มีกระแสข่าวดี ที่ทางทวิตเตอร์เริ่มทดลองปุ่ม Edit เปิดให้ "แก้ไขทวิต" ได้ ทำให้ผู้ใช้หวังว่าจะเกิดขึ้นจริง!!
โดยรายงานข่าวระบุว่า ทาง ทวิตเตอร์ เผยว่า จะทดลอง ระบบ “แก้ไขทวิต” หรือ ปุ่ม Edit ภายในเดือนนี้ หลังจากที่ อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla และ โครงการอวกาศ SpaceX เข้าซื้อหุ้นจนทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ
เจย์ ซูลูแวน ผู้อำนวนการใหญ่ ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคของทวิตเตอร์ ระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาว่า ทวิตเตอร์กำลังพัฒนาและทดลองระบบแก้ไขทวิตมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่ง ฟีเจอร์ นี้ถือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์เรียกร้องมากที่สุดตลอดหลายปี
ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ เริ่มทำโพลล์ หรือสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา เกี่ยวกับประเด็นของ "ปุ่มแก้ไขทวิต” หรือ "ปุ่ม Edit" พบว่า 73.5% อยากให้มีระบบนี้ และมีผู้โหวตจำนวนมากถึง 4.2 ล้านผู้ใช้เข้ามาโหวต
โดยกระแสข่าวการเพิ่มระบบ “แก้ไขทวิต” หรือ ปุ่ม Edit เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 7 วัน หลัง "วันเมษาโกหก" ซึ่ง ทวิตเตอร์ อาจเผชิญความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ อีลอน มัสก์ เข้าซื้อหุ้น 9.2% จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และจะเข้าร่วมประชุมบอร์ดบริหาร หลังทวิตเตอร์ถูกตั้งคำถามเรื่องความเป็นกลางของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือ Free Speech
ขอขอบคุณที่มา springnews