ดูกันให้ตาฉ่ำ 10 ซีรีส์หนีร้อนวันสงกรานต์

หยุดยาวสงกรานต์นี้ทุกคนน่าจะวางแผนการเดินทางและทำกิจกรรมต่างๆ กันบ้างแล้ว ส่วนใครนี้ไม่ได้ออกไปสาดน้ำที่ไหนและไม่อยากเปียกช่วงสงกรานต์ เราขอแนะนำ 10 ซีรีส์ใหม่ในปี 2024 ใช้เวลาตลอดช่วงสงกรานต์นี้ดูกันยาวๆ ไปเลย

Shōgun (Disney+)

สำหรับใครที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ‘Shōgun’ คือหนึ่งในตัวเลือกซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ที่พลาดไม่ได้ เนื้อเรื่องว่าด้วยประเทศญี่ปุ่นราวปี 1600 ที่ชาติตะวันตกเริ่มเข้ามาค้าขายและหาผลประโยชน์กับญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ไดเมียวจากแคว้นทั้งห้าต่างกำลังแก่งแย่งอำนาจกันเพื่อจะก้าวขึ้นมาเป็น ‘โชกุน’ ผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งทางการทหารและการบริหารประเทศ เราจะได้รับชมความขัดแย้งและสงครามการแย่งชิงอำนาจที่ยากจะกะพริบตา 

เนื้อเรื่องของ Shōgun นั้นเรียกได้ว่าเข้มข้นไม่แพ้ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เรื่องอื่นๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นซีรีส์เรื่องนี้ได้ดัดแปลงมาจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในชื่อเดียวกันของ เจมส์ คราเวล ที่จัดเต็มทั้งเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น การเข้าถึงบทบาทของนักแสดง และฉากที่สมจริงจนเรียกได้ว่าเหมือนเราหลุดย้อนเวลาไปในยุคสมัย 1600 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
 

สาธุ (Netflix)

มาที่ซีรีส์จากบ้านเรากันบ้าง กับ ‘สาธุ’ ซีรีส์สัญชาติไทยที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธผ่านมุมมองของกลุ่มวัยรุ่นเพื่อนสนิทสามคนที่ต้องการจะหาผลประโยชน์จากศาสนา ด้วยการสร้างโมเดลธุรกิจผ่านการพัฒนาวัดที่แทบจะเป็นวัดร้างให้กลายเป็นวัดที่มีผู้คนเข้ามาทำบุญอีกครั้ง ทว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาวางแผนเอาไว้เพื่อใช้วัดเป็นแหล่งเงินทุน

ซีรีส์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากหน้าหลายตาทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวทางพุทธศาสนา อาทิ เจมส์—ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, แอลลี่—อชิรญา นิติพน, พีช—พชร จิราธิวัฒน์, และ ปั๊บ—พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข ซึ่งแต่ละตัวละครจะพาไปสำรวจศาสนาพุทธทั้งในมุมมืดและมุมสว่าง ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมจะตีความและทำความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังของศาสนาพุทธอย่างไร

Mr. & Mrs. Smith (Prime Video)

ย้อนกลับไปในปี 2005 ตอนนั้น Mr. & Mrs. Smith เคยเป็นภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย แบรด พิตต์ และ แอนเจลีนา โจลี ครั้งนี้สายลับสองหน้ากลับมาอีกครั้งในซีรีส์ ‘Mr. & Mrs. Smith’ ที่ได้ โดนัลด์ โกลเวอร์ มารับบท Mr.Smith และ มายา เออร์สไคน์ มารับบท Mrs.Smith สองคู่หูสายลับที่ต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกันในฐานะคู่สามีภรรยาเพื่อตบตาคนรอบตัวสำหรับการทำภารกิจสุดอันตราย

แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ที่รีเมคมาจากภาพยนตร์ที่เคยโด่งดัง แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่พลาดที่จะเก็บเอารายละเอียดดั้งเดิมมาใส่เพื่อให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง ร่วมกับการนำเสนอเรื่องราวของสองสามีภรรยาสายลับให้ออกมาในรูปแบบใหม่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ทว่ายังคงฉากแอ็กชั่นสุดตระการตาและเรื่องราวดราม่าสุดเข้มข้นไว้เช่นเคย
 

The Impossible Heir (Disney+)

มาถึงคอซีรีส์เกาหลีกันบ้างกับ ‘The Impossible Heir’ เรื่องราวการพบกันของคนสามคน ที่ต่างก็ดิ้นรนเพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของคังโอกรุ๊ปตระกูลแชบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาหลี ประกอบไปด้วย ฮัน แทโอ (รับบทโดย อี แจอุค) ชายหนุ่มสุดฉลาดหลักแหลม ผู้มีอดีตอันเจ็บปวดอยู่เบื้องหลัง คัง อินฮา (รับบทโดย อี จุนยอง) ลูกชายนอกสมรสของตระกูลแชบอล ผู้ที่เต็มไปด้วยความกระหายที่จะประสบความสำเร็จโดยที่ไม่สนวีธีว่าจะถูกหรือผิด นา ฮเยวอน (รับบทโดย ฮง ซูจู) หญิงสาวผู้มีความทะเยอทะยาน ที่ได้มาพบกับทั้งคู่จนนำมาซึ่งความสัมพันธ์ของตัวละครที่สุดจะซับซ้อน

แน่นอนว่าซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้นทะเยอทะยานมีอยู่เยอะมาก แต่สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่พลาดไม่ได้ในช่วงหยุดยาวนี้ เนื่องจากซีรีส์ไม่ได้นำเสนอเพียงแต่ความทะเยอทะยานสู่จุดสูงสุดของตัวละครเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้งสามคนมาร่วมสร้างความสนุกให้ผู้ชมอย่างเราติดงอมแงม จนแทบไม่ได้หลับแน่นอน ดังนั้นใครที่เป็นคอซีรีส์เกาหลีอย่าลืมเพิ่ม The Impossible Heir ลงในลิสต์ซีรีส์หยุดยาวนี้กันไว้ได้เลย

 

The Gentlemen (Netflix)

หากใครกำลังมองหาซีรีส์แนวอาชญากรรมมาเฟีย คงจะต้องรีบเพิ่ม ‘The Gentleman’ ลงลิสต์โดยด่วน เพราะซีรีส์เรื่องนี้จะนำเสนอเรื่องราวของ เอ็ดดี ฮอร์นิแมน (รับบทโดย ธีโอ เจมส์) ผู้ต้องมารับมรดกจากพ่อของเขาที่พึ่งเสียชีวิต โดยหนึ่งในธุรกิจที่พ่อของเขาเคยดูแลนั้นคือ การปล่อยเช่าพื้นที่ด้านล่างคฤหาสน์ให้พ่อค้ากัญชามาเช่าทำฟาร์มกัญชา ทำให้เอ็ดดีต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องราวอาชญากรรมและความวุ่นวายมากมายที่กระหน่ำเข้ามาหาเขาอย่างไม่ขาดสาย

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นซีรีส์แนวอาชญากรรมมาเฟีย แต่ซีรีส์เรื่องนี้ยังสอดแทรกมุกตลก และมีเนื้อเรื่องสุดหักมุมจนแทบจะเดากันต่อไปถูกเลยว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป

 

Doctor Slump (Netflix)

“เมื่อชีวิตเดินมาถึงทางตัน เราทั้งคู่เลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง” คือประโยคที่อธิบายซีรีส์เรื่อง ‘Doctor Slump’ ได้ดีที่สุด เมื่อ นัม ฮานึล (รับบทโดย พัค ชินฮเย) และ ยอ จองอู (รับบทโดย พัค ฮยองชิก) ที่ในอดีตเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องและคู่แข่งกัน ต้องกลับมาพบกันอีกครั้งในวันที่พวกเขาทั้งคู่กำลังเผชิญหน้าปัญหามากมายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต จนทำความรู้สึกดีๆ เริ่มก่อตัวและกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ผู้ชมอย่างเราต้องเอาใจช่วย

เนื้อเรื่องแนวคู่แข่งสู่คู่รักคือสูตรสำเร็จของซีรีส์โรแมนติกหลายเรื่อง แต่สิ่งที่ทำให้ Doctor Slump โดดเด่นขึ้นมานั้นคือเรื่องราวสุดบังเอิญที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่ต้องโคจรมาเจอกัน แถมยังเป็นในวันที่ชีวิตของพวกเขาทั้งคู่มืดมน ทำให้ผู้ชมอย่างเราจะได้เห็นการพลิกแพลงสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นรักผ่านซีรีส์เรื่องนี้

 

Fallout (Prime Video)

มาถึงคอเกมกันบ้างกับ ‘Fallout’ ซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากเกมสุดฮิตขวัญใจใครหลายคนอย่างเกม Fallout โดย Amazon ทั้งนี้เนื้อหาของซีรีส์จะเป็นเหตุการณ์หลังเกม Fallout ภาค 4 ซึ่งไม่ได้ปรากฏในเนื้อเรื่องมาก่อน ทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นคอเกมนี้อยู่แล้วหรือไม่เคยเล่นเกมนี้เลยก็สามารถสนุกกับซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน

เนื้อหาจะเริ่มต้นขึ้นจากสถานที่ที่เรียกว่า Vault หมายเลข 33 ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยมี ลูซี (รับบทโดย เอลลา เพอร์เนล) ลูกสาวของผู้นำ Vault หมายเลข 33 ที่ต้องการหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ออกสู่โลกกว้าง การหลบหนีในครั้งนี้ของเธอจะพาผู้ชมอย่างร่วมผจญภัยไปพบกับความตื่นเต้นที่กำลังรอเธอและพวกเราอยู่ภายนอก 

 

3 Body Problem (Netflix)

‘3 Body Problem’ หรือ ‘ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก’ ซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากผู้สร้างซีรีส์ Game of Thrones ที่ดัดแปลงเนื้อหามาจากนวนิยายไซไฟของ หลิว ฉือซิน ในปี 2008 ว่าด้วยเหตุการณ์ประหลาด ที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนพากันฆ่าตัวตายอย่างปริศนา ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ห้าคนเข้ามาเกี่ยวเพื่อสืบหาความจริงถึงการฆ่าตัวตายของอาจารย์พวกเขา

ยิ่งพวกเขาหาความจริงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้พวกเขาเข้าไปพัวพันกับปริศนามากขึ้นเรื่อยๆ จนพบเกม VR ปริศนาที่เกี่ยวกับการหาคำตอบเพื่อให้อารยธรรมบนดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์สามดวงอยู่รอด ซึ่งปริศนาเหล่านี้เองทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์ไซไฟอีกเรื่องที่น่าจับตามองที่สุดเรื่องหนึ่งเลย

Constellation (Apple TV)

หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวบนอวกาศ ‘Constellation’ คือซีรีส์ที่จะพาคุณทะยานสู่ห้วงอวกาศสุดลึกลับกับ โจ (รับบทโดย นาโอมิ ลาเพซ) นักบินอวกาศหญิงชาวสวีเดนที่มีภารกิจสำรวจนอกโลก ทว่ายานของเธอกลับเกิดการขัดข้อง แต่เธอก็สามารถรอดชีวิตกลับมาบนโลกได้ อย่างไรก็ตาม โลกที่เธอเคยอยู่กลับกลายเป็นสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคย มีเหตุการณ์ประหลาดมากมายเกิดขึ้นหลังจากที่เธอกลับมาไม่ว่าจะเป็น เธอจำไม่ได้ว่าเธอเลิกกับสามีไปตั้งแต่ก่อนขึ้นยานแล้ว, การที่เธอเผลอพูดกับลูกเป็นภาษาสวีเดนทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอกับลูกจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ, หรือสิ่งของรอบตัวเธอต่างก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่เธอไม่คุ้นเคย

 

The Regime (HBO Go)

ปิดท้ายกันด้วย ‘The Regime’ ซีรีส์เสียดสีการเมืองตลกร้าย ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตในกำแพงที่ถูกปกครองด้วยระบบเผด็จการ โดยมีนายกรัฐมนตรีเอเลนา เวิร์นแฮม (รับบทโดย เคต วินสเล็ต) เป็นผู้ปกครอง โดยที่ขณะนี้ความไม่มั่นคงในตำแหน่งของเธอเริ่มค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้เธอกังวลและเลือกจะปรึกษากับ เฮอร์เบิร์ต ซูแบก (รับบทโดย แมทธิอัส โชนาร์ท) นายทหารคนสนิทที่เอาแน่นอนเอานอนอะไรไม่ได้ ในขณะที่อิทธิพลของซูแบกเริ่มมีมากขึ้นเหนือนายกรัฐมนตรี ทำให้ความพยายามในการขยายอำนาจของเอเลนาเริ่มส่งผลให้ทั้งพระราชวังและประเทศก้าวเข้าสู่จุดแตกหัก