วีซ่า เปิดผลการศึกษาเรื่องความคิดเห็นของผู้บริโภค พบว่า ชาวไทย 51 % มีแนวโน้มจะเลือกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศต่อไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ 23 % มีการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างแดน
โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงเลือกเดินทางเพื่อพักผ่อนภายในประเทศต่อไปในปี 2565 เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นานและมีความปลอดภัยกว่า จนกลายเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวสำหรับยุคหลังโควิด-19
จากการศึกษายังชี้ให้เห็นถึง 3 ปัจจัยแรกที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยรู้สึกสบายใจที่จะออกเดินทางอีกครั้ง คือ
ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกเองก็เริ่มปรับเข้าสู่โหมดการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างไปจากช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 โดย
จุดหมายปลายการท่องเที่ยวในต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่อยากที่จะเดินทางไปที่สุด ตามลำดับ ได้แก้
ความต้องการสำหรับการท่องเที่ยว
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เป็นที่ชัดเจนว่าผู้คนยังคงระมัดระวังตัว โดยเฉพาะในเรื่องการเดินทางยิ่งชัดเจนว่าพวกเขาเลือกในเรื่องความปลอดภัย และความคุ้นเคยในสถานที่ที่จะไป ผู้ประกอบการในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้ เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือต่างชาติก็ตาม"
"อีกทั้งควรสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยในทุกมิติ รวมถึงวิธีการชำระเงิน โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคการชำระเงินแบบไร้สัมผัสเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพราะนอกจากจะสะดวก รวดเร็วแล้ว ยังปลอดภัยอีกด้วย
นับเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการควรเดินหน้าปรับตัวเพื่อรองรับความความคาดหวังของผู้บริโภคในยามที่พวกเขาเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้ง”
“การใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบายอีกต่อไป ในยุคหลังการระบาดของโควิด-19 การชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลจะเป็นเรื่องของความมั่นใจ ปลอดภัย และฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่าการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศอย่างไร
เนื่องจากผู้บริโภคได้มองหาวิธีใหม่ๆ ในการดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยของตนเอง และตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด
วีซ่าได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมาย เช่น โครงการมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย (SHA) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ให้การรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยให้กับผู้ประกอบการไทย และเรายังมุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือเช่นนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน เราหวังว่าข้อมูลจากการศึกษาในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คู่ค้าของเราที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการชำระเงินสามารถปรับตัวเข้าสู่วิถีนิวนอร์มัล และเติบโตในสภาพแวดล้อมใหม่ในปัจจุบัน” สุริพงษ์ กล่าวสรุป