15 ตุลาคม 2564 จากกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีแนวคิดในการจะนำ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” หรือ น.ส.ลลิษา มโนบาล นักร้องวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ที่โด่งดังระดับโลกมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2020 ที่สะพานสารสิน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยคาดว่าจะใช้เงินในการว่าจ้างจำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะเรื่องของการใช้งบประมาณจำนวนมากในขณะที่ขณะนี้เรากำลังมีปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ
จากการสอบถามผู้ประกอบการบริเวณชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่ง ป้าติ๋ม (ขอสงวนนามสกุล) หมอนวดแผนไทย กล่าวว่า เห็นด้วย เพื่อที่จะช่วยดึงให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา และจะทำให้เกิดความครึกครื้นในช่วงเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และยังจะเป็นการโปรโมทภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์อีกทางหนึ่งด้วย เพราะใครๆ ก็ชอบลิซ่า เช่น สิงคโปร์ จีน เป็นต้น โดยเฉพาะแฟนคลับ และจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตดีขึ้น คิดว่าน่าจะคุ้ม และไม่ขาดทุนแน่นอน เช่นเดียวกับนายชัย (ขอสงวนนามสกุล) คนขับรถรับจ้างหน้าหาดป่าตอง มองว่าน่าจะคุ้ม เพราะทุกอย่างต้องมีการลงทุน หากไม่ลงทุนก็ไม่มีผลตอบรับมา เพราะปัจจุบันไม่มีรายได้เข้ามาประเทศไทยเลย ประกอบกับตอนนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนกันเยอะแยะแล้ว จะต้องลงทุน ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นภาพเมืองไทยว่า โควิดหายแล้วนะ การเปิดรับนักท่องเที่ยวและมีเทศกาลจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จากที่เข้ามาเฉพาะโครงการแซนด์บ๊อกซ์เปิดอย่างเดียว
ทางด้านนายสมยศ ปาทาน ผู้ประกอบการย่านเมืองเก่าถนนถลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เตรียมดึงลิซ่า แบล็กพิงค์ มาร่วมงานเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ที่ จ.ภูเก็ต ว่า การทำกิจกรรมของเมืองเรื่องที่ดี และสำหรับ น้องลิซ่า นั้นเป็นที่ที่รู้จักของคนไทย และคนทั่วโลก แต่ส่วนตัวมีข้อเสนอว่า การจัดกิจกรรมของเมืองซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และจัดเพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ขณะนี้ อาจจะไม่เหมาะสม จึงอยากเสนอให้ใช้ศิลปินในพื้นที่หรือศิลปินที่มีชื่อเสียงในประเทศ แทนการใช้ศิลปินเพียงคนเดียว โดยให้กระจายไปทั่วเมือง และเป็นอีเว้นที่เกิดขึ้นให้ถี่ขึ้น เป็นการเพิ่มนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวภูเก็ตได้ตลอดทั้งปี และเป็นการลงทุนที่น่าจะเกิดความคุ้มค่ามากกว่า
แต่หากสามารถดึงน้องลิซ่ามาได้จริงๆ ซึ่ง นายสมยศ กล่าวว่า สำหรับตัวน้องลิซ่า เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมียอดวิวในยูทูปเปอร์สูงมาก แต่การจัดเพียงครั้งเดียวคงไม่ได้เกิดอิมแพคอะไรขึ้นมา โดยคนกลุ่มอาจจะเข้าได้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 มีการจำกัดเรื่องของพื้นที่ ฉะนั้นจะต้องมองทั้งสองด่านว่า คุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียไปหรือไม่
ภาพ/ข่าว โดย:
สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต