
พาสที่ใช้บริการรถไฟโดยสารได้ไม่จำกัดตลอดเส้นทางรถไฟสาย JR ที่ให้บริการระหว่างNagoya - Matsusaka - Shingu - Kiikatsuura - Shirahama - Wakayama - สนามบิน Kansai, ระหว่าง Taki - Iseshi - Toba, ระหว่างสนามบิน Kansai - รอบเมือง Osaka - Nara - Kameyama - Nagoya และบริการรถไฟสาย Wakayama Dentetsu
ช่วงระหว่าง Wakayama Kishi ใช้บริการรถประจำทางสายต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อเยี่ยมชมศาลเจ้า Ise Jingu, เขต Toba, มรดกโลก Kumano-kodo (กลุ่มศาลเจ้า Kumano Hongu Taisha, Hayatama Taisha, Nachi Taisha เป็นต้น) ใช้ได้ 5 วัน ต่อเนื่อง ราคา ผู้ใหญ่ 11,000 เยน เด็ก 5,500 เยน
ซึ่งต้องซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่น ผ่านเอเจนซี่ท่องเที่ยวเท่านั้น โดยจะได้มาเป็นใบ exchange order แล้วจึงนำไปเปลี่ยนเป็นพาสเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นที่ JR Ticket Office ที่สนามบินคันไซ หรือ สถานีรถไฟ JR
"Ise-Kumano-Wakayama Area Tourist Pass"
ทริปนี้เดินทางโดยสายการบินไทยขาไปเราลงโอซาก้า ด้วยเครื่อง B747 ลำใหญ่นั่งสบาย การบริการระดับมาตรฐาน อาหารอร่อย เพิ่งเคยชิมเมนูอุด้งซีฟู้ด ของการบินไทย อร่อยมากๆ
ถึงญี่ปุ่นแล้วจะรออะไร...ไปเที่ยวกันเลย
DAY 1 WAKAYAMA
เริ่มต้นกันที่ปราสาทวากายามา (Wakayama Castle) สร้างขึ้นในปี 1585 ตามคำสั่งของท่าน Toyotomi Hideyoshi ในสมัยเอะโดะเคยเป็นอดีตฐานบัญชาการสำคัญของตระกูล Tokugawa ปราสาทได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1958 หลังจากที่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารหลักมีความสูง 3 ชั้นและบริเวณรอบๆ มีต้นซากุระปลูกไว้ประมาณ 600 ต้น เป็นจุดชมซากุระที่นิยมที่สุดของเมืองค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 410 เยน เปิดให้เข้าชมระหว่าง 9.00-17.30 น.
ไปเที่ยวต่อกันที่ Wakayama Marina City ทีมีทั้งสวนสนุก โชว์โลมาน่ารักๆ สถานที่สวยๆ เหมาะกับการถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆและที่พลาดไม่ได้ก็คือ ตลาดปลา Kuroshio ตลาดคุโระชิโอะอิจิบะเป็นตลาดปลาที่มีอยู่ในวากายาม่ามารีน่าซิตี้ ที่มีโชว์แล่ปลาทูน่าตัวโตๆ ให้นักท่องเที่ยวชมกันด้วยมี 3 รอบด้วยกัน คือ 11.00 / 12.30 /15.00
DAY 2 WAKAYAMA - Kumano Nachi Taisha - ISE
มาถึงไฮไลท์ ของทริปนี้คือ Kumano Nachi Taisha ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ์ Nintoku เมื่อปี 317 ถือว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางนี้ เจดีย์ 3 ชั้น Sanjunito Pagoda เป็นส่วนหนึ่งของวัด Seigantoji Temple คู่กับน้ำตก Nachi
เที่ยวต่อที่เมือง Ise จังหวัด Mie หินแต่งงาน Meoto Iwa ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักเดินทางต่างมาขอพรให้สมหวังเรื่องความรัก และเป็นจุดชมวิวพระจันทร์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น วันที่ไปเป็นวันวาเลนไทน์พอดี คู่รักเต็มไปหมด และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ มื้อเย็นของเรา กุ้งอิเสะเอบิ สด หวาน กรอบ ตอนเสริ์ฟยังดิ้นอยู่เลย สดจริงๆ
DAY 3 TOBA ISE
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ Toba Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีพันธ์สัตว์น้ำมากที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมอ่าวโทบะถัดจากเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ(Mikimoto Pearl Island)
ไปเที่ยวกันต่อที่กับอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ ศาลเจ้าอิเสะ-จิงงู(Ise Jingu) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนอายุหลายร้อยปี ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และลึกลับที่สุดแห่งหน่ง ชาวญี่ปุ่นมักจะมาสักการะบูชาเทพเจ้าอะมะเทะระซึ โอมิคามิ (Amaterasu) เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ซึ่งเชื่อกันว่าราชวงศ์ญี่ปุ่นสืบเชื้อสายมาโดยตรง
ในทุกๆ 20 ปีจะมีการบูรณะศาลเจ้าโดยให้ทุกอย่างยังคงแบบเดิมไว้มากที่สุด ถือเป็นการถ่ายทอดทั้งความรู้และทักษะของช่างฝีมือรุ่นเดิมให้กับช่างฝีมือรุ่นใหม่ ตำแหน่งของศาลเจ้าจะขยับทุก 20 ปี คือจะมีที่ 2 แปลง 20 ปีแรกจะใช้แปลงหนึ่งและอีก 20 ปีถัดไปจะใช้อีกแปลงหนึ่งสลับกันไป ผู้คนที่มาสักการะก็สามารถมาได้ทุกวันเวลา
ทุกครั้งที่มาก็จะเจอศาลเจ้าในสภาพที่สมบูรณ์ ว่ากันว่ายุคเอโดะขาวญี่ปุ่นจำนวน 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดจะเดินทางมาสักการะศาลเจ้าอิเสะ ชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันก็ยังมีความเชื่ออยู่ว่าซักครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมาสักการะให้ได้
โอคาเงะโยโกะโจ (Okage-yokocho Street) จุดท่องเที่ยวที่ด้านหน้าของศาลเจ้า Ise Jingu ถนนเก่าแก่มีร้านขายอาหาร ขนม ต่างๆ มากมายให้เสือกซื้อเลือกช้อป
มาถึงที่นี่ห้ามพลาด...ของหวานที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น "Akafuku"ขนมถั่วแดงสอดไส้แป้งโมจิ หวานอร่อยสุดๆ กินคู่กับน้ำชาจะเข้ากันมากเพราะค่อนข้างหวานมื้อเที่ยงกินอาหารขึ้นชื่อของเมือง Ise กันที่ร้าน Takone Chaya ได้ชิม Ise Udon กับ ข้าวซูชิ(เรียกว่าอะไรไม่แน่ใจ) อร่อยมากๆๆๆ
DAY 4 IGA - เล่นหิมะที่ GOZAISHO ROPEWAY
หมู่บ้านนินจาอิงะ(Iga Ninja Museum) ประกอบด้วยบ้านพักอาศัยในอดีต ห้องแสดงนิทรรศการ 2 ห้อง สำหรับจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับการเป็นนินจา รวมถึงงานเขียนโบราณ พร้อมกันอาวุธนินจาประเภทต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงหากใครอยากลองเป็นนอนจาดูสักครั้งก็มีชุดนินจาให้เช่าและขายอีกด้วย มีแมวนินจาน่ารักๆ ที่เมืองอิกะที่ร้าน http://www.gansoiganiku-kanaya.co.jp/
และสิ่งที่ต้องมาลองให้ได้เมื่อมาเที่ยวเมือง Iga ก็คือ เนื้ออิกะนั่นเอง เนื้อนุ่มๆ จิ้มไข่ดิบ หวานละมุนมากค่ะ
ไปเที่ยวต่อกันที่ GOZAISHO ROPEWAY ที่นี่สวยมากๆ ในทุกฤดู เรามาในฤดูหนาวข้างบนก็จะเป็นลานสกีให้ได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน เหมาะกับทุกเพศทุกวัยกระเช้าที่พาเราขึ้นไปบนยอดเขาความสูง 1,212 เมตร ในเวลาเพียง 12 นาที เท่านั้น ระหว่างทางขึ้นกระเช้าเราก็จะเห็นวิวในมุมสูงที่สวยมากๆ ถ้าเป็นฤดูหนาวจะเห็นหิมะปกคลุมไปทั่ว ฤดูใบไม้ร่วงก็ก็เห็นทั้งเทือกเข้าเป็นสีแดง เป็นสถานที่หนึ่งที่คนไทยยังไม่ค่อยไปเที่ยวหรือรู้จักซักเท่าไหร่ แนะนำให้มากันค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
DAY 5 NAGOYA - GAMAGORIเกาะ Takeshima - ล่องเรือ One Piece เก็บสตอเบอรี่สดๆ จากต้น
เข้าเมืองนาโกย่ากันแล้ว ได้เวลาช้อปปิ้งนิดหน่อยที่ย่าน Sakae แวะกินข้าวหน้าปลาไหลสไตล์นาโกย่าที่อร่อยมากๆ มีวิธีกินที่พิเศษหน่อยคือ มีวิธีกิน 4 แบบ1.กินข้าวหน้าปลาไหลแบบปกติ 1/4 ถ้วย2.ข้าว 1/4 ใส่เครื่องเคียง วาซาบิ ต้นหอม สาหร่าย 3.เหมือนข้อ 2 แต่ใส่น้ำชาในกาลงไปนิดหน่อย4. แบบที่ตัวเองชอบมากที่สุด ส่วนตัวชอบแบบใส่น้ำชา อร่อยดี
ถึงเวลาที่สาวกการ์ตูนวันพีซต้องร้องกรี๊ด เราไปเที่ยวกันที่ Laguna Ten Bosch ล่องเรือ Thousand Sunnyออกทะเลกับลูฟี่และผองเพื่อน ภายในเรือก็มีห้องต่าง ๆ ที่จำลองมาให้เหมือนในการ์ตูนมากที่สุด ทั้งอุปกรณ์ สีสันและการตกแต่ง Laguna Ten Bosch มีหลากหลายโซนให้เที่ยวกัน ในช่วงกลางค่ำจะมีการประดับไฟในส่วนต่างๆ อย่างสวยงาม ในโซน Lagunasia ที่เป็นส่วนของสวนสนุกอีกด้วย
เที่ยวกันต่อที่เกาะ Takeshima เกาะกลางน้ำที่ได้รับการอนุรักษ์ไม่ให้ตัดต้นไม้บนเกาะโดยไม่ได้รับอนุญาตเกาะทาเคะ ได้รับการจดบันทึกเป็นสิ่งอนุรักษ์ทางธรรมชาติของประเทศ บริเวณกลางเกาะมีศาลเจ้าที่เป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าที่ให้พรเกี่ยวกับความรัก ที่ชื่อว่า "ศาลเจ้ายะโอะโทะมิ"คุณตาที่เป็นไกด์ให้พวกเรา น่ารักมากๆ แข็งแรงเดินขึ้นบันไดชันๆ แต่ดูไม่เหนื่อยเลย พวกเราหอบกันไปแล้ว 555
ต่อด้วยไปเก็บสตอเบอรี่สด หวาน กรอบ จากต้น จิ้มนมข้น ที่สวนนี้จะมีผลไม้ให้เก็บแตกต่างกันไปตามฤดูกาล เช่น เมลอน ส้ม องุ่น ที่สวน Gamagori Orange Park ราคาค่าเข้าจะขึ้นตามฤดูกาลและชนิดของผลไม้เข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่ http://orepa.sakura.ne.jp/inbound/orepa(thai)/index.html
DAY 6 NAGOYA - NISHIOโรงงานชาเขียว พิพิธภัณฑ์แก้ว โรงงานผลิตมิโซะ
เที่ยววันสุดท้ายแล้วยังไม่อยากกลับเลย แงๆ วันนี้เราจะไปชม ชิม แชะ กันที่โรงงานชาเขียวในเมืองนิชิโอะ จังหวัดไอจิ ที่ขึ้นชื่อด้านการผลิตผงชาเขียว Matcha ที่เก็บเกี่ยวด้วยวิธีดั้งเดิมผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจนได้ชาเขียวคุณภาพดี
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนาโกย่าสามารถเดินทางโดยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เรามีโอกาสได้เข้าไปดูในโรงงานผลิตผงชาเขียวด้วยค่ะ มื้อเที่ยงทานกันที่ร้านนี้เลยค่ะ มีทั้งโซบะเย็น ร้อน และขนม ที่ผลิตจากชาเขียวคุณภาพ หอมกรุ่น
ไปต่อกันที่ โรงงานแก้ว Mikawakogei Glass Museum ที่มีส่วนจัดแสดงแก้วหลากหลายแบ สีสันสวยงาม และส่วนเวิร์คช้อปให้นักท่องเที่ยวลองทำแก้วลายที่ตัวเองครีเอทเอง เป็นแก้วหนึ่งเดียวในโลกค่ะ 555 ค่าใช้จ่ายไม่แพงได้แก้วกลับบ้านและสนุกด้วย ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงแก้วหลากหลายรูปแบบสวยงาม
ไปดูกรรมวิธีการผลิตมิโสะที่ hatao miso park ว่ากรรมวิธีเป็นอย่างไร ซึ่งภายในโรงงานจะมีถังขนาดใหญ่ที่ไว้ใช้หมักมิโสะ 1 ถังใช้เวลาหลายปีในการหมักถั่วเหลือง วัตถุดิบเช่น ถัวเหลือง ยีสต์ เกลือ หมักในถังแล้วใช้ไม้ขนาดใหญ่พอดีถังและหินทับไว้จนได้ที่
ก่อนกลับเรามาทัวร์สนามบิน Chubu Centrair International Airport สนามบินระดับ 5 ดาว ที่ได้รับรางวัลที่ 1 The world's Best Regional Airports ถือเป็นมาตรฐานระดับโลก และยกระดับความเป็นเลิศ ในการให้บริการของสนามบิน ภายในสนามบินมีร้านค้า ของฝาก สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีจุดชมเครื่องบินที่ชั้นบนของสนามบินด้วย การเดินทางมาสนามบินก็สะดวกด้วยรถไฟสาย Meitetsu Airport Express จากตัวเมืองนาโกย่าใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น
ถึงเวลากลับบ้านแล้ว ยังอยากเที่ยวต่ออยู่เลย ขากลับเรากลับทาง นาโกย่า กับสายการบินไทย ด้วยเครื่อง B787 ใหม่เอี่ยม นั่งสบายมากๆ ปัจจุบันทางการบินไทยได้นำเครื่อง A380 มาบินเส้นทางนาโกย่าบางเที่ยวบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเส้นทางนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.