เนื่องจากช่วงนี้ยังมีการเกาะกระแสลมหนาวกันเนืองๆ เราก็ตามเทรนไปถ่ายรูปซากุระกันดีกว่า กับเทศกาลชมพูพันธ์ุทิพย์ที่มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นไม้ยืนต้นผลิตใบสูง 8-25 เมตร ดอกสีชมพูสด สีชมพูอ่อน ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มี 5 ใบย่อย ใบรี โคนใบแหลม ปลายใบเรียว ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง กลีบเชื่อมกันติดเป็นหลอด ปลายกลีบแยกเป็น 5 กลีบ มีช่วงการออกดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผู้คนคราครำ่ ล้วนแต่มาถ่ายรูปและสัมผัสบรรยากาศโรแมนติก เนื่องจากพื้นที่อันกว้างใหญ่ ทางวิทยาเขตจึงมีรถบริการพาเยี่ยมชมบริเวณต่างๆอีกด้วยคะ
น่าเสียดายที่ จากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ชมพูพันุธ์ทิพย์ร่วงโรยเร็วกว่าปกติ ทางมหาวิทยาลัยจึงของดกิจกรรมระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2559 ในช่วงที่ไปนี้ เราจึงเห็นการร่วงโรยปลิ่วจากต้นเป็นระยะๆ และกองอยู่ตามพื้น เป็นสีชมพูไปตามรายทาง ก็มีความสวยไปอีกแบบนะคะ เหมือนได้ทั้งฤดูหนาว ใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง ในเวลาเดียวกัน
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3428-1053-6
Website: www.kps.ku.ac.th
Google Map: https://goo.gl/maps/MPwXoKXWJR72
เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามแล้ว เราก็มาฝากท้องกันในตัวเมือง กับคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ Chateau de cafe (ชาโต เดอ คาเฟ่)
กับบรรยากาศกลิ่นอายโรมาเนีย ผสมผสานกับความสบายๆแบบยุโรปวินเทจ ซึ่งมีหลากมุมให้ถ่ายรูปกัน
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า คือเมนูเด็ดยอดนิยมของที่นี่ นอกจากนี้ยังมีเมนูชากาแฟ น้ำผลไม้ และเค้กให้เลือกอร่อยกันอีกหลายอย่าง
สามารถจอดรถบริเวณหน้าร้าน พร้อมฟรี wifi ด้วยนะคะ
วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 9:00-20:00 น.
สอบถามรายละเอียด: โทร. 092-412-2662
Facebook: https://www.facebook.com/Chateau-De-Cafe-ชาโต-เดอ-คาเฟ่-ร้านกาแฟเซลฟี่-1446617025647720/
Google Map: https://goo.gl/maps/zi2sJS2uKvq
เมืองนครปฐมนี้เป็นอีกที่หนึ่งซึ่งมีคาเฟ่น้อยใหญ่เติบโตขึ้นเป็นจำนวนมาก นอกจากร้านที่สวยงามแล้ว รสชาติก็ไม่แพ้ในกรุงเทพฯเลยคะ ไม่ว่าจะเป็นร้าน The Puffin Way Cafe Cotta Coffee ฯลฯ ถ้าใครได้มาเยือนก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมร้านน่ารักๆเหล่านี้กันนะคะ
อิ่มหนำกันแล้วก็มาเดินย่อย ชมธรรมชาติกันต่อที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ เป็นที่รู้จักในชื่อว่า ม.ทับแก้ว ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ มีพื้นที่ประมาณ 888 ไร่ แต่ใช้เป็นที่ก่อสร้างอาคารของมหาวิทยาลัยเพียง 428 ไร่ โดยเป็นที่ตั้งของคณะอักษรศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์(ชั้นปีที่1) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์(ชั้นปีที่ 1-2) และคณะมัณฑนศิลป์(ชั้นปีที่1)
ชื่นชมกับความรมรื่นและประวัติโดยสังเขปของวิทยาเขตนี้แล้ว ถ้าคุณมาในวันพุธ ภายในมหาวิทยาลัยยังมีตลาดนัดที่มีของหลายหลายให้เลือกซื้อหาในราคามิตรภาพอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นของแฮนด์เมด เสื้อผ้า เครื่องประดับ ต้นไม้ หรือของกินต่างๆ
วันเวลาเปิดปิดตลาดนัด: ทุกวันพุธ 8:00-15:00 น.
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3425-3843-44
Website: http://www.su.ac.th/
Google Map: https://goo.gl/maps/VdGkx5qHUzJ2
ถัดมาอีกไม่ไกลคือพระราชวังสนามจันทร์ สร้างขึ้นโดยพระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากพระองค์สวรรคต พระราชวังสนามจันทร์ใช้เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่าง ๆ ของจังหวัดนครปฐม รวมทั้ง เป็นวิทยาเขตหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบัน พระราชวังสนามจันทร์อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักพระราชวัง
สิ่งปลูกสร้างภายใน ได้แก่ พระที่นั่งพิมานปฐม พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนย พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ พระตำหนักทับแก้ว พระตำหนักทับขวัญ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลาธรรมมุเทศน์โอฬาร ปราสาทศรีวิไชย อนุสาวรีย์ย่าเหล
และเทวาลัยคเณศร์พระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ ที่อันเป็นศูนย์กลางของพระราชวังสนามจันทร์ สำหรับประดิษฐานพระพิฆเนศวร ซึ่งนับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง และเพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งพระราชวังสนามจันทร์ และเมื่อมองจาก พระที่นั่งพิมานปฐมจะเห็นพระปฐมเจดีย์ เทวาลัยคเณศร์และพระที่นั่งพิมานปฐมอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน
บรรยากาศภายในเหมือนได้ย้อนยุคไปชมสถาปัตยกรรมร่วมสมัย อีกทั้งบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ ที่อยู่ได้ทั้งวันไม่เบื่อเลย และสำหรับผู้ที่ต้องการนั่งรถเยื่ยมชม สามารถใช้บริการรถรางนำเที่ยวฟรี หรือติดต่อเช่ารถกอล์ฟได้ค่ะ
วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 9:00-16:00 น. (โปรดแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่ขาสั้น กระโปรงสั้น เสื้อกล้าม หรือกางเกงขาดๆ)
อัตราค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ 50 บาท
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3424-4236-9
Google Map: https://goo.gl/maps/5NUJ2GKYJ4v
เดินออกมาด้านหน้าก็จะเจอกับสถาปัตยกรรมในยุคเดียวกัน ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เป็นหอศิลปวัฒนธรรมเอนกประสงค์ที่รวบรวมภูมิปัญญา ด้านศิลปวัฒนธรรมของภูมิภาคตะวันตกไว้ ณ ที่เดียวกัน โดยจะมีทั้งส่วนของนิทรรศการประจำเพื่อให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของไทย นิทรรศการหมุนเวียน การจัดกิจกรรมทางด้านวิชาการ และด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนการให้บริการทางวิชาการ เพื่อเป็นแหล่งให้การศึกษาอบรมและเผยแพร่ทางด้านศิลปะ และการให้บริการด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคตะวันตก โดยมีภูมิทัศน์ต่อเนื่องกับเขตโบราณสถานของพระราชวังสนามจันทร์
วันเวลาเปิดปิด: เปิดวันจันทร์-ศุกร์ 8:30-16:30 น. ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ (ไม่เสียค่าเข้าชม)
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3425-3843-44
Google Map: https://goo.gl/maps/kExJYhjCfTt
ฝั่งตรงข้ามเป็นอีกแห่งที่น่าเยี่ยมชม สถาบันวัฒนธรรมภูมิภาคตะวันตก จัดเป็นสถาบันที่รวบรวมผลงานด้านวัฒนธรรมเชิดชูปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นใน ภูมิภาค ภายในอาคารมีห้องแสดงผลงานศิลปะของอาจารย์พิน อินฟ้าแสง ห้องศิลปะวัตถุ ห้องงานหัตถกรรม ห้องหุ่นกระบอกคุณยายสาหร่าย ช่วยสมบูรณ์
วันเวลาเปิดปิด: เปิดวันจันทร์-ศุกร์ 8:30-16:30 น. ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ (ไม่เสียค่าเข้าชม)
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3425-3840-4 ต่อ 2231
Google Map: https://goo.gl/maps/eZnWoEQkbrx
ก่อนกลับเราก็แวะสักการะ ทำบุญกันที่ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร กันก่อน
พระปฐมเจดีย์ หรือเดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวง ของแผ่นดินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราชเดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิก็เป็นได้ เพราะพระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือทรงมะนาวผ่าซีกแบบเดียวกับพระสถูปสาญจี แต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ มีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้
เป็นที่ประดิษฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ชื่อเต็มก็คือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร แต่ประชาชนทั่วไป จะเรียกว่า หลวงพ่อพระร่วง หรือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ มีขนาดความสูงวัดจากพระบาทถึงพระเกศ 7.42 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะแบบสุโขทัย ประทับยืนอยู่บนฐานโลหะทองเหลือง ลายบัวคว่ำบัวหงาย ทำวงพระพักตร์ตามยาว พระหนุเสี้ยมนิ้วพระหัตถ์ และพระบาทไม่เสมอกัน ห้อยพระหัตถ์ซ้ายลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้น ยื่นออกไปข้างหน้าระดับพระอุระ เป็นกิริยาห้าม มีพระอุทรพลุ้ยออกมา ห่มจีวรบางคลุม แนบติดพระวรกาย บ่ายพระพักตร์สู่ทิศเหนือ ทำด้วยโลหะทองเหลือง หนัก 100 หาบ
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3434-0155
Google Map: https://goo.gl/maps/eDsZbtkse2q
ระหว่างทางสู่กรุงเทพฯ ยังมีสถานที่ให้แวะชมมากมาย อาทิ วัดไร่ขิง พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดน้ำลำพญา หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) และวันนี้ gotography จะพาไปสู่โลกแห่งศิลปะที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะนกฮูก (Owl Art Museum)
แหล่งรวมงานศิลปะ งานออกแบบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากนกฮูกหรือนกเค้าแมวจากหลากหลายสถานที่ทั้งในเมืองไทยและจากหลายๆประเทศ โดยอาจารย์ปรีชา ปั้นกล้า แห่งคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 7 ส่วนด้วยกันตามความหลากหลายของวัสดุที่ใช้สร้างสรรค์ผลงาน คือ นกฮูกจากกระดาษ นกฮูกจากเครื่องปั้นดินเผา นกฮูกจากโลหะ และแก้ว นกฮูกจากเรซิ่น นกฮูกจากผ้า และหนัง นกฮูกจากไม้ และนกฮูกที่เป็นเครื่องประดับ
นอกจากนี้ยังมีร้านค้า (Owlet Shop) ที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึกต่างๆเกี่ยวกับนกฮูก ทั้งตุ๊กตา ของแฮนด์เมด และผลงานศิลปะต่างๆ
สำหรับคอกาแฟ ที่อยากจะนั่งในบรรยากาศสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้อันร่มรื่น เคล้ากาแฟอุ่นๆ ต้องลอง Owisdom (Art of Coffee) แล้วคุณจะสัมผัสวิถีสโลวไลฟ์อย่างแท้จริง
วันเวลาเปิดปิด: เปิดวันอังคาร-ศุกร์ 10:00-18:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00-19:00 น.
อัตราค่าเข้าชม: 40 บาท
สอบถามรายละเอียด: โทร. 0-3433-9721 081-809-6867
Facebook: www.facebook.com/พิพิธภัณฑ์ศิลปะนกฮูก-221103724641610/
Google Map: https://goo.gl/maps/wX9xEkxu7Zn
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wikipedia