เดินสายถ่ายศิลป์

การออกไปถ่ายรูปครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นๆที่เคยไปมานั่นคือการออกทริปถ่ายภาพเดินสายถ่ายศิลป์กับทางคณะนิเทศศาสตร์ม.ศรีปทุมวิทยาเขตชลบุรีโดยมีจุดหมายปลายทางณสถานที่สำคัญและจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของจ.จันทบุรีการที่ต้องไปอยู่ท่ามกลางหมู่นักศึกษาซึ่งมากไปด้วยพลังความคิดตลอดจนพลังกายที่มีแบบล้นเหลือรวมถึงมีมุมมองแบบขาดๆเกินๆทำให้การติดตามดูวิถีหนุ่มสาวรุ่นใหม่เหล่านี้สนุกสนานกับการใช้เลนส์ขนาดต่างๆ ที่ทางแคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) นำมาให้หยิบยืมใช้จึงน่าสนุกกว่าถ่ายรูปเองเป็นไหนๆ

ทั้งการยืนก้มกดเงยปีนหรือนอนพบเห็นได้ตลอดการเดินทางส่วนหนึ่งมาจากสถานที่ซึ่งเป็นแลนมาร์คนั้นช่างมีพื้นที่ยืนที่ดีเพียงแค่นิดเดียวการหนีมุมหรือการหามุมมองใหม่ๆจึงเป็นสิ่งท้าทาย และทุกคนก็พยายามค้นหาความแตกต่างกันอย่างมุ่งมั่น ซึ่งจะได้คำตอบที่สมใจอยากหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ดี การได้ลงมือปฏิบัติไม่ว่าเยอะมากน้อยแค่ไหนก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาฝีมือด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่ว่าใครจะค้นพบวิถีทางได้ก่อนกันยิ่งเครื่องไม้เครื่องมือการถ่ายภาพอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่แล้วการลองผิดลองถูกไม่ใช่สิ่งสิ้นเปลืองอีกต่อไป

วัดเขาสุกิม วัดที่มีชาวพุทธจำนวนมากให้ความศรัทธาบริจาคเงินจนทำให้สามารถพัฒนาวัดได้อย่างน่าชม มีสิ่งก่อสร้างหลักๆ อย่างโบสถ์ วิหารต่างๆ รวมถึงพิพิธพภัณฑ์ อยู่บนภูเขา ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ครึ้ม ดูเป็นธรรมชาติ เป็นจุดแรกที่แวะถ่ายรูป จุดนี้เองที่เหล่านักศึกษาไฟแรงจะได้ฝึกการมองหามุมองใหม่ๆ ทั้งทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม ความงดงามของวัด เพื่อให้การถ่ายภาพสนุกและมีเป้าหมาย จึงให้โจทย์สำหรับที่นี่ว่า Recover วัดเขาสุมกิม โดยมีที่มาจากการได้นั่งฟังเพลงเก่าทำใหม่บนรถบัสที่เราเดินทางนั่นเอง

การที่มีสิ่งก่อสร้างอยู่ท่ามกลางไม้ใหญ่เป็นอุปสรรคที่ใหญ่หลวงสำหรับนักศึกษาผู้กล้าในการหามุมถ่ายรูปในครั้งนี้ เดินหน้ามากก็ไม่ได้เพราะจะไม่สามารถเก็บภาพรวมของสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดได้ หรือถ้าถอยหลังมากก็ไม่เหมาะ นั่นเพราะกิ่งไม้ต้นไม้ใหญ่ก็จะบดบังอีก การแก้ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ ยอมเก็บภาพทั้งสองอย่างเข้ามาอยู่ด้วยกันเสียเลย อาจจะเห็นอาคารน้อยหน่อย เห็นธรรมชาติรอบตัวบ้างก็ให้อภัยกัน และแล้วผลงานที่ออกมาก็น่าชื่นชมสมกับความมุ่งมั่นตั้งใจจริงๆ

ชุมชนเก่าริมน้ำจันทบูร ชุมชนที่เคยคึกคักในช่วงที่การค้าขายทางน้ำยังเป็นเส้นทางหลักในการแลกเปลี่ยนสิ่งของ ทั้งเครื่องเทศ สมุนไพร ของป่านานาชนิดที่หาได้จากในพื้นที่ ก่อนล่องมาตามแม่น้ำจันทบุรี จนมีการพลิกพื้นชีวิตชีวาให้กับชุมชนด้วยการท่องเที่ยว บรรยากาศริมน้ำเวลานี้ดูสดชื่น สามารถเดินชมบ้านเรือนอาคารเก่าได้แบบชิลๆ ที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงดำเนินกิจวัตรประจำวันไปอย่างปกติ และจะยิ่งครึกครึ้นมากขึ้นเมื่อมีงานเทศกาล

ตรงข้ามกันมีโบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมล ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นงดงามอยู่อีกฝากฝั่งของแม่น้ำ รูปทรงอาคารและการวางตำแหน่งเหมาะกับแสงช่วงบ่ายเป็นอย่างยิ่ง แตกต่างจากวัดไทยตามพุทธคติที่โดยมากจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเหมาะกับการถ่ายรูปในช่วงเช้า และธีมของที่นี่ก็คือ ชีวิตในชุมชน

สำหรับคนชอบทะเลก็ต้องมุ่งหน้าสู่จุดชมวิวเนินนางพญา ณ สุดปลายหาดเก็บตะวัน ที่นี่หนุ่มสาวจะได้สัมผัสกับความโรแมนติกของบรรยากาศ พระอาทิตย์หย่อนตัวลงทะเล ลาลับขอบฟ้าไปต่อหน้าต่อตา กับเส้นสายของถนนที่คดเคี้ยวขนานไปกับชายฝั่งอ่าวไทย ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ดีพอที่จะไปปรากฏภาพบนภาพยนตร์และโฆษณาหลายชิ้น จนกลายเป็นมุมมหาชนที่ต้องมาสักครั้งสำหรับน้องๆที่ชอบการถ่ายภาพ แสงสุดท้ายแห่งวันสิ้นสุดลง บ่งบอกว่าเราควรหันหน้ามุ่งสู่ที่พัก แต่แสงสว่างของเรือประมงกลางทะเลเพิ่งจะถูกจุดขึ้นเป็นการเริ่มต้นของตักตวงทรัพย์จากท้องทะเลแห่งนี้ แน่นอนว่าหัวข้อ ทะเล คือภาพที่เราต้องการจากน้องๆ

นำ้ใสไหลเย็นเห็นฝูงปลาไม่มีใครค้านถ้าพูดถึง น้ำตกพริ้ว สายน้ำที่โจนทะยานออกจากหน้าผาพุ่งสู่เบื้องล่างเป็นฝอยๆ เมื่อผสมกับการถ่ายภาพแบบสปีดชัตเตอร์ต่ำ ภาพนี้เองเป็นการยืนยันว่าชื่อน้ำตกพริ้วไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ สายน้ำแห่งนี้เลี้ยงดูการค้าการขายของผู้คนมากมายในอดีต แม้วันนี้สายน้ำจะน้อยลงไปบ้างเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นผลที่เกิดหลังจากภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ความชุ่มชื้นในอากาศลดลง ฝนตกน้อย การที่ระบบนิเวศน์โดยรอบถูกรบกวน มีผลทำให้การกักเก็บน้ำในแผ่นดินทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

จากวัดมาสู่ชุมชนแวะโบสถ์ฝรั่ง หวานกับแสงสุดท้ายที่โค้งชมวิวริมทะเล เรานำรูปจากผู้กล้าทั้งหมดราว 30 คน มาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งมีทั้งภาพแคนดิด แลนด์สเคป ซีสเคป สถาปัตยกรรม ชีวิต ส่วนเทคนิคที่สุดอึ้งของน้องๆ นิเทศศาสตร์ปี 2 นั่นคือการระเบิดซูม ซึ่งแน่นอนต้องโดนใจผู้คัดเลือกรูปอยู่แล้ว บางรูปก็ดูง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของชีวิตต่างสายพันธุ์ เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดบนอุปกรณ์ต่างๆ ผลงานทั้งหมดนี้ไม่จำกัดการสร้างสรรค์จากอุปกรณ์ และไม่จำเป็นว่าจะต้องมาจากผู้สนับสนุนหลักอย่างแคนนอนเท่านั้น เพราะเปิดกว้างด้วยความรักและชอบโดยส่วนตัวจริงๆ แต่ที่แน่ๆ รูปที่โดนใจกรรมการนั้นรับของรางวัลจากแคนนอนไปเป็นกำลังใจ

ผศ. เยาวนารถ พันธุ์เพ็ง รองคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี หัวเรือใหญ่ในการจัดโฟโต้ทริปในครั้งนี้กล่าวถึงความภูมิใจที่เด็กในคาถาที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของสถานที่ต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และเด็กๆ หลายคนที่ส่งผลงานเข้าประชันถึงแม้ไม่ได้รับรางวัลใดๆ จากกรรมการ แต่ก็บ่งบอกถึงการพัฒนาและความตั้งในการออกมาร่วมทริปถ่ายภาพในครั้งนี้ ภาพที่ได้รางวัลทั้ง 9 รางวัล ก็ยังจะได้คะแนนพิเศษในวิชาถ่ายภาพอย่างแน่นอน งานนี้ใครพลาดไปถือว่าเสียโอกาสอย่างยิ่ง และแน่นอนว่าความน่าประทับใจแบบนี้ จะเกิดขึ้นอีกในปีถัดไปอย่างแน่นอน

นอกจากได้แบ่งปันความรู้ความถนัดเกี่ยวกับการถ่ายรูปแล้วยังช่วยให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆทั้งมุมมองวิธีคิดวิธีทำที่ทำให้ได้ภาพมีทั้งสนุกและปวดสมองบ้างในบางจังหวะแต่โดยรวมแล้วก็เป็นกิจกรรมที่ได้ประโยชน์ทั้งกับตัวเองและเด็กๆ(มุมนี้ที่คิดเอง)มากบ้างน้อยบ้างผสมกันไป แต่สิ่งที่มากกว่าความรู้นั่นคือการพบกับกลุ่มคนใหม่ๆและการแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆสู่กันฟังนั่นเป็นจุดที่เราอาจไม่ได้ประสบด้วยตนเองแต่สามารถเข้าใจได้โดยการรับฟังทำให้ค้นพบว่าความรู้ของเรานั้นช่างเล็กน้อยเสียเหลือเกินเมื่อเราแวะเวียนไปยังวงโคจรที่แตกต่าง