เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นิวัติไชย เกษมมงคล เปิดเผยว่า 16 มิ.ย.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ออกหมายจับ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี สุนทร วิลาวัลย์ ภายหลัง ป.ป.ช.ยื่นคำร้องขอหมายจับ สุนทรฯ ในความผิดสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐออกเอกสารสิทธิ์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151
เลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุว่า หมายจับ สุนทรฯ ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ดังกล่าว จะไม่นับอายุความในกรณีผู้ต้องหาหลบหนี ทั้งนี้เป็นไปตาม มาตรา 7 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริต ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2561
สำหรับ มาตรา 7 ระบุว่า “ในการดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดีหรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ และเมื่อได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำเลย ถ้าจำเลยหลบหนีไปในระหว่างต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ มิให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 มาใช้บังคับ”
ด้าน หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ นำคณะสื่อมวลชน ตรวจสอบความคืบหน้าแปลงบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี สุนทร วิลาวัลย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กนกวรรณ วิลาวัลย์ ที่หน่วยบริการนักท่องเที่ยวด่านเนินหอม อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
พ.อ.พงษ์เพชร เปิดเผยว่า เมื่อปี 2560 ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.)บูรณาการตรวจสอบที่ดินแปลงเลขที่ 88, 89 หมายเลขโฉนด 41158, 41159 ของ สุนทรฯ และ กนกวรรณฯ พบการบุกรุกพื้นที่ป่า พื้นที่ 1 งาน 19 ตารางวา กรณีนี้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ส่วนคดีที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ได้ส่งให้ป.ป.ช.ดำเนินคดี และ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ สุนทรฯ และ กนกวรรณฯ
อย่างไรก็ตาม คดีที่หมดอายุความเป็นคนละคดีกับที่ สุนทรฯ และกนกวรรณฯ กระทำผิดฐานบุกรุกยึดถือครอบครอบป่า ซึ่งมีการแจ้งความไว้แล้ว 7 ข้อหา โดยพฤติกรรมความผิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ส่วนในปี 2563 ได้กระทำผิดฐานบุกรุกแผ้วถางออกนอกโฉนด เข้าไปในพื้นที่อุทยานฯ รวม 7 แปลง กว่า 24 ไร่เศษ แจ้งความดำเนินคดี 2 คดี
พ.อ.พงษ์เพชร ยอมรับว่า เข้าใจ และเห็นใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ว่าได้รับแรงกกันดัน เจ้าหน้าที่ในท้องที่ไม่กล้าดำเนินคดี ต้องใช้กองกำลังส่วนกลางลงมา และจากนี้ไปจะติดตามคดี 2 พ่อลูก ที่ค้างในชั้นตำรวจ และอัยการ
จากนั้น พ.อ.พงษ์เพชร์ ได้นำสื่อมวลชนไปดูแปลงบุกรุกที่มีการจับกุมเมื่อปี 2563 คือแปลงโฉนดเลขที่ 115 และ 116 แปลงโฉนดเลขที่ 1, 2, 3
ต่อมา พ.อ.พงษ์เพชร ได้เดินทางไปที่สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีในชั้นตำรวจ ต้องติดตามต่อไป ที่อัยการจังหวัดปราจีนฯ สั่งไม่ฟ้อง และผู้การจังหวัดเห็นแย้ง ขณะนี้อยู่ในชั้นพิจารณาของอัยการสูงสุด ซึ่งชุดจับกุมได้ติดตามโดยไม่นิ่งนอนใจ
พ.อ.พงษ์เพชร ย้ำว่า ได้เวลาคิกออฟทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพราะรอเวลาตั้งแต่ปี 2563 ได้ส่งสัญญารไปแต่ไม่ได้การตอบรับ แต่คิดว่าตอนนี้พร้อม และประชาชนคนไทยทั้งประเทศก็อยากให้ทวงคืนทรัพย์สมบัติชาติกลับคืนมา ตรวจสอบอย่างจริงจัง งานนี้ต้องช่วยกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กอ.รมน.พร้อมเป็นแกนกลางการทำงาน