
ปัจจุบันพื้นที่ภูเขาสูง ป่าต้นน้ำของจังหวัดพังงา และภูเก็ต ถูกเปลี่ยนมือการครอบครองจากชาวบ้าน ไปอยู่ในมือของกลุ่มนายทุน เกือบจะ 100% นั่นทำให้สภาพป่าไม้ ภูเขา ถูกแปรเปลี่ยนไปจากเดิมทำการเกษตร มาเป็นโรงแรม รีสอร์ท ร้านกาแฟ และจุดชมวิว
กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านจังหวัดพังงา และภูเก็ต กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าและภูเขาสูง เป็นการทำลายทรัพยากรป่าต้นน้ำของประเทศ
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ มีคำสั่งให้ตั้งเลขสืบสวนที่ 87/2565 กรณีกลุ่มบุคคล ร่วมกันบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าควนช้างเขาทองหลาง” บริเวณหมู่ที่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา และให้ตั้งเลขสืบสวนที่ 109/2565 กรณีการร้องเรียนว่ามีผู้ใช้รถแบ็คโฮ ขุดดินบนภูเขาสูงในเขตป่าไม้ถาวรควนเขากมลา และป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา พื้นที่คาบเกี่ยว ระหว่าง ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต กับ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 ศุภชัย คำคุ้ม บูรณาการตรวจสอบที่ดิน ร่วมกับผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ กรมป่าไม้ นฤเศรษฐ แก้วคง เจ้าพนักงานที่ดินพังงา สาขาตะกั่วทุ่ง และฝ่ายปกครอง สำรวจพื้นที่ป่าไม้ถาวร "ป่าควนช้างเขาทองหลาง" ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งทางการประกาศเขตป่าเมื่อปี 2504
บริเวณบนยอดเขา เป็นจุดชมวิว "สเม็ดนางชี" แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง จ.พังงา พบการบุกรุกใหม่ ทั้งตัดถนน และสร้างฝายกั้นน้ำ บนเขาสูงจากข้อมูลเบื้องต้น จุดที่ดีเอสไอ และกรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบทางการประกาศเขตป่าไม้ถาวร "ป่าควนช้างเขาทองหลาง" เมื่อปี 2504 แต่พบว่า มีระวางเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. โดยออกให้เมื่อปี 2519 - 2520 ครอบลงไปบนเขาเกือบทั้งลูก
กระบวนการต่อไปจึงต้องตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก ว่าออกโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่
โดยเจ้าหน้าที่ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำอากาศยานไร้คนขับ บินสำรวจรอบภูเขาทั้งลูก ประมาณ 5,000 ไร่ เพื่อจัดทำแผนที่ และระวางแปลงเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินจ.พังงา ว่า น.ส. 3 ก ออกมาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ก้อเดช ช่อแตง ให้ข้อมูลต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า เมื่อประมาณ 6-7 ปีที่ผ่านมา มีนายทุนจากจ.ภูเก็ต มาติดต่อซื้อที่ชาวบ้าน ซึ่งแต่เดิมเป็นสวนยาง ในราคาไร่ละ 2-3 ล้านบาท ชาวบ้านจึงขาย และเริ่มมีการก่อสร้างรีสอร์ท และจุดชมวิวบนเขาโดยบุกรุกเพิ่มเติมขึ้นไปนอกเหนือพื้นที่ น.ส.3 ก ของชาวบ้าน มีชาวบ้านหมู่ที่ 2 เคยมีร้องว่า ป่าต้นน้ำบริเวณป่าไม้ถาวร “ป่าควนช้างเขาทองหลาง” ถูกบุกรุก ทำให้สภาพอากาศรอบๆ หมู่บ้าน แย่ลง
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังได้บูรณาการร่วมกันกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม / ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สจป.12 สาขากระบี่ / เจ้าพนักงานที่ดินอ.กระทู้ ตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่า “ป่าไม้ถาวรควนเขากมลา”
สืบเนื่องจากกรณีดีเอสไอ ได้รับการร้องเรียนว่า มีผู้ใช้รถแบคโฮ ขุดดินในเขตป่าควนเขากมลา พื้นที่คาบเกี่ยว ระหว่าง ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต กับ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีผู้อ้างเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก เลขที่ 32 ต.กระทู้ อ.กระทู้ เนื้อที่ประมาณ 12 ไร่เศษ ที่รัฐออกให้เมื่อปี 2508 ก่อนประกาศเขตป่าไม้ถาวรป่าควนเขากมลา เพียงปีเดียว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า น.ส.3 ก ซึ่งไม่มีระวางภาพถ่ายทางอากาศ แต่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร และป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเทือกเขากมลา” มีร่องรอยการขุดตักหน้าดิน แต่ไม่พบรถแบ็คโฮ และรถบรรทุกในพื้นที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
โดยมีเนื้อที่ขุดตักหน้าดินประมาณ 5 ไร่ และมีการตัดถนนขึ้นไปบนภูเขามีความสูง 200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีสภาพป่าไม้สมบูรณ์ และบางส่วนเป็นสวนยางพารา แต่ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม พื้นที่มีความสูงเกิน 80 เมตร ต้องผ่านการทำ EIA ก่อน กรณีนี้ นายกเทศมนตรีเมืองกระทู้ ได้นำคำสั่งปิดประกาศให้หยุดการขุดดิน ไว้ก่อน
ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาขุดหน้าดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2453 มาตรา 17 ให้ฝ่ายปกครอง ต.กระทู้ อ.กระทู้ กับ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง ไปหาข้อตกลงร่วมกันเรื่องจุดเกิดเหตุใครเป็นเจ้าของพื้นที่ และมีหน้าที่เจ้งความดำเนินคดีต่อไป
ดีเอสไอ จะตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก ว่าถูกต้องหรือไม่ และ น.ส. 3 ก เลขที่ 32 ที่นำมาแสดง ตรงแปลงหรือไม่ ก่อนเสนออธิบดี ดีเอสไอ ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รับกรณีนี้ เป็นคดีพิเศษ หรือไม่