สืบสวนความจริง : คดีเด่นป.ป.ช. ชี้มูล"ธนิกานต์"ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เรื่องกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐ ใช้หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรลงมติในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลท่ี 10 พ.ศ. ....

คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหา ส.ส.เขต 7 กทม. (บางซื่อ-ดุสิต) พรรคพลังประชารัฐ ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์  ใช้ผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตน และลงมติในการพิจารณาและลงมติ ร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 พ.ศ. ....

จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ฟังได้ว่า เมื่อวันท่ี 8 สิงหาคม 2562 สภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี 25 ปีท่ี 1 ครั้งท่ี 14 สมัยสามัญประจำปีครั้งท่ี 1 พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ เหรียญราชรุจิรัชกาลที่ 10 โดย ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ได้ลงชื่อเข้าร่วมประชุม และไม่ได้ลาประชุม

การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว พิจารณา 3 วาระรวด ลงมติเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 14.01 น. จำนวน ผู้เข้าร่วมประชุม 468 เห็นด้วย 466 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 0 ไม่ลงคะแนน 2

ทั้งวาระที่ 1 และวาระที่ 3 ปรากฏชื่อ ธณิกานต์ ว่าได้แสดงตนและลงมติ ทั้งที่ในเวลาเดียวกัน ธณิกานต์ ได้เข้าร่วมงานเสวนาแบ่งปันความรู้บทบาทแม่แห่งยุคดิจิทัล ณ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงการกิจกรรมวันแม่ประจำปี 2562 ที่ ธณิกานต์ เป็นผู้จัด และร่วมเป็นวิทยากร มีสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เข้าร่วมบันทึกการเสวนาดังกล่าว แล้วนำมาออกอากาศในรายการ “ท่ีนี่ ThaiPBS” เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า การกระทำของ ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ใช้ผู้อื่น หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรแสดงตน และลงมติในการพิจารณา และลงมติแทนตนเอง อันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่ง หน้าท่ีของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดฐานกระทาการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดารงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ6 ข้อ7 ข้อ8 ข้อ11 ข้อ17 และ ข้อ21

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง