ความพยายามของเครือข่าย 13 องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ และมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ พยายามแสวงหาความจริงที่ว่า เหตุใด อัยการ จึงสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายสำคัญในคดีอ่างวิคตอเรียฯ ทั้งการยื่นต่อสำนักนายกฯ สำนักงานอัยการสูงสุด ประธานก.อ. และยื่นต่อ ป.ป.ช. แต่ความพยายามทั้งหมดตลอด 3 ปี กลับไร้ซึ่งคำตอบ
คณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของ 13 องค์กร ที่จะขอให้ตรวจสอบการกระทำอันอาจกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อจะช่วยผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ อ่างวิคตอเรียฯ คือ นางนิภา นายธนพล และนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ มิให้ต้องรับโทษ ด้วยการสั่ง "ไม่ฟ้อง" คดีอาญา อันอาจเป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม อันอาจเป็นการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของข้าราชการในกระบวนการยุติธรรม
เป็นที่น่าสังเกต ว่า การพิจารณา "สั่งไม่ฟ้องคดี" ของพนักงานอัยการแม้เกิดก่อนยุคอัยการสูงสุดที่ชื่อ “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์” แต่เหตุผลการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 13 องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ ขอทราบเหตุผลจากอัยการสูงสุด ตลอด 2 ปี ไม่มีคำตอบที่กระจ่างชัด ทำให้สำนักงานอัยการสูงสุดตกเป็นเป้าสายของสังคม ทั้งการไม่ฟ้อง บอส วรยุทธ อยู่วิทยา และไม่ฟ้อง นิภา และธนพล คดีค้ามนุษนย์อ่างวิคตอเรียฯ