svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

สำรวจ 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024

29 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เอาใจสายเฮลท์ตี้ ชวนส่อง 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024 ทั้งในเรื่องของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เทรนด์อาหารจากพืช สมดุลแห่งการกินเพื่อสุขภาพและเพื่อโลก ตลอดจนมิติของ AI ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐฉันใด การใส่ใจสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคภัยต่างๆ ก็เป็นของคู่กันฉันนั้น ครั้งนี้เราชวนไปสำรวจ 7 เทรนด์สายสุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024 ลิสต์ไว้เลย เพราะปีมังกรทองนี้เราจะสุขภาพดีกันถ้วนหน้า

สำรวจ 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024

1 Prevention Is Better Than Cure หรือการป้องกันไว้ดีกว่ารักษา

จากรายงาน Noncommunicable Diseases Progress Monitor ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าผู้คนทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มากถึง 74 % หรือคิดเป็น 45 ล้านคน  ส่งผลให้ในปัจจุบันเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) ศาสตร์ทางการแพทย์ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคเพื่อการดูแลสุขภาพองค์รวมเข้ามามีบทบาทในการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เทรนด์สุขภาพในภาพรวมของปี 2024 และปีต่อๆ ไป คือการรักษาสุขภาพเพื่อให้ไม่ป่วย แทนปล่อยให้ป่วยแล้วค่อยรักษา

โดยผลสำรวจพบว่า คนเจน Z ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพื่อไม่ให้ตัวเองป่วยมากกว่าคนช่วงวัยอื่น ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาผู้คนเริ่มลงทุน และใช้จ่ายไปกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งอาหาร การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพจิต การใช้อาหารเสริม และวิตามิน การเลือกใช้สิ่งของที่เป็นมิตรกับร่างกายมากที่สุด อย่างสารสกัดจากธรรมชาติแทนการใช้เคมีสังเคราะห์ รวมไปถึงการตรวจสุขภาพที่ถี่มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพให้ได้มากที่สุด

2 อาหาร Plant-based จะแรงต่อเนื่อง

เทรนด์อาหารจากพืช หรือแพลนต์เบส เรียกว่ามาแรงในปี 2023 ที่ผ่านมา เพราะตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน ทั้งเรื่องสุขภาพ ที่มีงานวิจัยบอกว่าอาหารจากพืชดีต่อสุขภาพหัวใจมากกว่า หรือจะเป็นเรื่องกระแสวีแกนเพื่อลดการกินอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ หรือเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระแสแพลนต์เบสน่าจะมาแรงต่อเนื่องถึงปี 2024 ด้วย เนื่องจากหากดูจากสถิติในโซเชียล #plantbased บน TikTok ที่มากถึง 1 พันล้านครั้งในสหรัฐ จนผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในปี 2024 ผู้คนจะยิ่งนิยมอาหารที่ทำจากพืชจากธรรมชาติมากกว่าทางเลือกอื่นที่ผ่านกระบวนการพิเศษ เช่น อาหารสังเคราะห์ หรือเนื้อสัตว์   

 

3 โปรตีนดีจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น

ในปีที่ผ่านมา โปรตีนจากพืชได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมียอดวิวบน TikTok ถึง 2 พันล้านครั้งใน #highprotein โดยเฉพาะความนิยมโปรตีนจากพืชจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2024 แน่นอน ทั้งถั่ว เมล็ดพืช และพืชตระกูลถั่ว สาเหตุเพราะผู้คนตระหนักรู้เรื่องความสำคัญของโปรตีนมากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่กินโปรตีนไม่ถึง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพในอนาคตได้ เช่น เมื่ออายุถึงราว 30 ปี มนุษย์จะค่อยๆ เสียมวลกล้ามเนื้อไปทุกปี และจะเสียมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลต่อสุขภาพ และเกิดปัญหาด้านการเคลื่อนไหว และการใช้ชีวิตในด้านอื่นในอนาคตได้ เราจึงได้เห็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโปรตีนมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนตามที่ร่างกายต้องกัน ซึ่งคนทั่วไปจะอยู่ที่ 0.75 ถึง 1 กรัม/น้ำหนักตัว/วัน ส่วนคนที่ออกกำลังกาย เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือต้องการสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายจะอยู่ที่ 1.5 ถึง 2 กรัม/น้ำหนักตัว/วัน

สำรวจ 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024

4 Balanced Diet สมดุลแห่งการกิน

การกินอาหารที่สมดุล ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำหนัก และลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นเพื่อให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาหารที่สมดุล คืออาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในสัดส่วนที่ถูกต้อง รวมถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และน้ำ ทั้งนี้ มีงานวิจัยและผลการศึกษามากขึ้นเกี่ยวกับเทรนด์เรื่องการกินอาหารที่เริ่มเปลี่ยนกลับมาที่การให้ความสำคัญกับปรับสมดุลอาหาร แทนการตัดหรือเลือกกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การกินอาหารคีโตเจนิก (Ketogenic Diet) ที่ตัดแป้งและน้ำตาล เน้นพลังงานจากไขมันอย่างเดียว

โดยการปรับสมดุลของสารอาหาร คือเราสามารถกินอาหารได้ทุกชนิด เพียงแค่เลือกสัดส่วนของสารอาหารแบบใส่ใจมากขึ้น เช่น การกินอาหารครบ 5 หมู่ แต่เน้นกินผัก และโปรตีนให้มากขึ้น กินแป้งแบบพอดี และไขมันอีกเล็กน้อย ให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลายชนิดเพื่อรักษาการทำงานของร่างกาย ซึ่งอาจง่ายกว่าการเลิกกินอาหารบางอย่างไปเลย และช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สำรวจ 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024

5 Sustainability ดูแลสุขภาพพร้อมความยั่งยืน

เรื่องของ Sustainability หรือความยั่งยืน เป็นเรื่องที่ทุกคนเริ่มตระหนักรู้ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แม้ส่วนใหญ่มักหมายถึงความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับเทรนด์การดูแลสุขภาพมีความเกี่ยวข้องกับยั่งยืนในหลายมิติ เช่น อาหารวีแกนเพื่อลดการเลี้ยงปศุสัตว์ที่สร้างแก๊สเรือนกระจก การเลือกผักปลอดสารพิษเพื่อลดการใช้สารเคมี การเลือกกินวัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง และการเลือกใช้สกินแคร์ที่ไม่ทดลองในสัตว์ เป็นต้น

โดยในปี 2024 ความยั่งยืนจะอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คนอย่างกลมกลืนมากขึ้น ตั้งแต่การพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่มาจากเกษตรกรรมแบบปฏิรูป เลือกบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การลด Food Waste รวมถึงในแง่อื่นนอกจากสิ่งแวดล้อม  อย่างการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพจากผู้ประกอบการที่รับผิดชอบต่อสังคม โปร่งใส และไม่เอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง

 

6 ความใส่ใจในสุขภาพจิต

นับแต่สถานการณ์โควิด-19 จำนวนของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและโรคทางอารมณ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลก คนยุคปัจจุบันเริ่มเข้าใจคอนเซ็ปต์ของการดูแลสุขภาพจิตกันมากขึ้น และเริ่มทำให้เรื่องสุขภาพจิตเป็นเรื่องปกติ ผู้คนสามารถพูดคุยกับนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ได้โดยที่ไม่ต้องป่วย และไม่ต้องกังวลที่จะถูกคนรอบข้างตัดสิน ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีปัญหาสุขภาพจิตก็ตาม ซึ่งในหลายประเทศเริ่มมีการผลักดันให้การปรึกษาด้านสุขภาพจิตกลายเป็นสวัสดิการจากรัฐ และครอบคลุมคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสุขของคนในสังคม

สำรวจ 7 เทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2024

7 AI ในมิติการดูแลสุขภาพ

ต้องยอมรับว่า AI เข้ามามีบทบาทในทุกๆ ส่วนของการดำเนินชีวิต ซึ่งในเรื่องของสุขภาพ เราจะเห็นการใช้ AI แทรกซึมอยู่ในหลากหลายมิติ ทั้ง Smarter Wearable ที่เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มีติดข้อมือกัน โดยปัจจุบันฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพของอุปกรณ์เหล่านี้ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับกระแสการดูแลสุขภาพที่เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย โดยการพัฒนาส่วนใหญ่เน้นไปที่เพิ่มความแม่นยำในการติดตามที่มากขึ้น อย่างการเดิน การวิ่ง GPS อัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ ออกซิเจนในเลือด และระดับความเครียด รวมทั้งการนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผลเพื่อออกแบบแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลมาใช้เพื่อ Personalize วิธีการดูแลสุขภาพ ทั้งอาหาร การออกกำลังกาย และไลฟ์สไตล์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน และเป็นไปได้ว่าปี 2024 เราอาจได้เน้นแกดเจ็ตสุขภาพแบบสวมใส่ในรูปแบบอื่นมากขึ้น นอกจากนี้ เรื่องของ Telemedicine/Telehealth ยังเป็นเทรนด์ที่น่าจะอยู่กับโลกของเราไปอีกยาวนาน และจะเข้ามามีส่วนในชีวิตของคนทั่วโลกมากขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นการดูแลสุขภาพผ่านทางไกล ไม่ว่าจะเป็นการหาหมอเพื่อปรึกษา รักษา และบำบัดปัญหาสุขภาพ ทั้งกาย และใจ ไปจนถึงการเทรนด์ออนไลน์กับโค้ชออกกำลังกาย นักโภชนาการ หรือนักจิตวิทยา โดยทั้งหมดนี้สามารถทำผ่านสมาร์ตโฟน แท็ปเล็ต และแล็ปท็อป ทั้งการแชต โทรด้วยเสียง โทรแบบวิดีโอ และรวมไปถึงบริการส่งยา หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ถึงบ้านหลังตรวจด้วย

logoline