svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

จะเป็นอย่างไร ถ้าร่างกายเราอดน้ำ-อดอาหาร?

06 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จริงหรือไม่!? ที่มนุษย์เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 3 สัปดาห์โดยไม่กินอะไรเลย แต่จะอยู่ได้เพียงแค่ 3-4 วันหากต้องอดน้ำ ร่วมหาคำตอบของเรื่องนี้ไปพร้อมกัน

มนุษย์เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยปัจจัยสำคัญ ประกอบด้วย อากาศ น้ำ และอาหาร ตามข้อมูลจากสถาบันนิติเวชวิทยา เผยว่าร่างกายมนุษย์จะอยู่ได้ในบรรยากาศที่มีออกซิเจนประมาณ 20.9 เปอร์เซ็นต์ ถ้าบรรยากาศที่ออกซิเจนน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์จะหมดสติอย่างรวดเร็ว และอาจตายได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ถือว่าอากาศสำคัญต่อการมีชีวิตรอดมากที่สุด นอกจากนี้ ร่างกายยังต้องการอาหารและน้ำเพื่อการดำรงชีวิตอีกด้วย ซึ่งมนุษย์สามารถอยู่ได้นานถึง 3 สัปดาห์ถ้าไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ดั่ง “มหาตมะ คานธี” ที่มีชีวิตอยู่ได้ถึง 21 วันช่วงการอดอาหาร

จะเป็นอย่างไร ถ้าร่างกายเราอดน้ำ-อดอาหาร?

อดอาหารหลายวัน ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร?

ในแต่ละวันร่างกายของเราจะได้รับพลังงานจากอาหารที่รับประทานเข้าไป การที่เราอดอาหารเป็นเวลานานจะทำให้ไม่มีพลังงานเข้าไปในร่างกาย อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วงแรกที่เริ่มขาดพลังงานจากสารอาหาร ร่างกายจะทดแทนด้วยการไปใช้พลังงานจากส่วนอื่นแทน โดยปกติร่างกายเราใช้น้ำตาลกลูโคส (glucose) เป็นตัวเผาผลาญทำให้ร่างกายเรามีพลังงานกล้ามเนื้อขยับได้ สมองคิดได้ หัวใจสูบฉีด เป็นต้น

จะเป็นอย่างไร ถ้าร่างกายเราอดน้ำ-อดอาหาร?

เมื่อร่างกาย “ขาดอาหาร”

อาจจะนับว่าเป็นโชคดีที่คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องทานอาหารได้นานถึง 3 สัปดาห์ หรือหากมีร่างกายแข็งแรงเป็นทุนเดิม อาจอยู่ได้ถึง 1-1.5 เดือน เมื่อร่างกายของเราขาดอาหาร ร่างกายของเราจะพยายามเข้าสู่กระบวนการยื้อเวลาในการยืดชีวิต โดยพยายามดึงเอาพลังงานสำรองในร่างกายออกมาใช้ ในช่วงเวลาปกติ ร่างกายจะดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมาเป็นพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะเป็นพลังงานที่ย่อยง่าย ใช้ง่าย และดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่าย และรวดเร็วที่สุด หลังจากที่ถูกย่อยให้อยู่ในโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคส น้ำตาลส่วนเกินจะถูกเก็บเอาไว้ในตับ และกล้ามเนื้อในรูปของไกลโคเจน แต่เมื่อเป็นพลังงานที่ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย มันก็จะหมดไปได้ง่ายเช่นกัน โดยจะใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ร่างกายรู้สึกหิวอีกครั้ง

หากร่างกายของเรายังขาดอาหารอย่างต่อเนื่องไปอีก 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน ร่างกายจะเริ่มดึงพลังงานจากกรดไขมันมาใช้แทน ในระหว่างที่ร่างกายดึงกรดไขมันมาใช้ กรดไขมันจะเปลี่ยนเป็นสารที่เรียกว่า คีโตน ซึ่งเกิดขึ้นที่ตับ จากนั้นจึงถูกส่งไปยังหัวใจ สมอง และเนื้อเยื่อในร่างกายต่างๆ เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานในร่างกายต่อไป

หากเวลาผ่านไปอีก 3 วัน กรดไขมันจะถูกทำมาใช้เป็นพลังงานจนหมด ร่างกายจะดึงเอาพลังงานจากโปรตีนมาใช้ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานแหล่งสุดท้ายที่มีอยู่ โปรตีนเหล่านี้อยู่ในกล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง และเส้นผม โปรตีนในร่างกายจะถูกย่อยแล้วกลายเป็นกรดอะมิโน เพื่อดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แล้วจึงจะถูกเปลี่ยนเป็นกลูโคสอีกครั้งที่ตับ ทำให้สมองของเรายังทำงานอยู่ได้ และเมื่อร่างกายดึงเอาโปรตีนมาใช้ มวลกล้ามเนื้อต่างๆ ในร่างกายจึงจะค่อยๆ ลีบเล็ก แบนลงไปเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย และถ้ายังขาดอาหารต่อไป ร่างกายจะไม่มีพลังงานอะไรให้ออกมาใช้เพื่อดำรงชีวิต จนเสียชีวิตได้ในที่สุด

การดึงพลังงานทดแทนมาใช้เมื่อ “อดอาหาร”

โดยปกติเวลารับประทานอาหารเข้าไป ส่วนที่เกินจากที่ร่างกายใช้ จะมีการสะสมเอาไว้เพื่อนำไปใช้ในตอนที่ขาดสารอาหาร เรียกว่า “ไกลโคเจน” (glycogen) โดยจะสะสมบริเวณตับและกล้ามเนื้อ ใช้สำหรับเป็นแหล่งของพลังงาน เมื่อปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดลดลง หรือร่างกายขาดสารอาหาร ตับจะเปลี่ยนไกลโคเจนให้เป็น “น้ำตาลกลูโคส” (glucose) หลังจากร่างกายมีการดึงมาใช้เรื่อยๆ จนหมด ร่างกายจะมีการสลายตัวไขมัน หรือการดึงไขมันในร่างกายของเราออกมาใช้ โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “คีโตน” เปรียบเสมือนโมเลกุลของน้ำตาล ถ้ากระบวนขาดสารอาหารอย่างต่อเนื่องจนร่างกายดึงทุกส่วนมาใช้หมดแล้ว จึงจะเริ่มดึงเอากล้ามเนื้อ โปรตีน มาใช้ทดแทน

จะเป็นอย่างไร ถ้าร่างกายเราอดน้ำ-อดอาหาร?

เมื่อร่างกาย “ขาดน้ำ”

แรนดัล เค.แพคเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวไว้ว่า

ขีดจำกัดสูงสุดของมนุษย์ที่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีน้ำนั้นอยู่ที่ราว 1 สัปดาห์ หรืออาจแค่ 3-4 วันเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่แต่ละคนอาศัยอยู่ และระยะเวลาที่พวกเขาไม่ได้รับน้ำกับอาหาร

 

สำหรับเรื่องนี้ ดร.คลาวเดอ พีแอนตาโดซี อาจารย์จากมหาวิทยาลัยดยุค กล่าวว่า คนเราสามารถอยู่นอกบ้านในอุณหภูมิปกติได้ 100 ชม.โดยไม่ต้องดื่มน้ำ ถ้าอากาศเย็นกว่าปกติก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น แต่ถ้าอากาศร้อนหรือได้รับแสงแดดโดยตรงระยะเวลาการมีชีวิตรอดจะสั้นลง ซึ่งร่างกายมนุษย์สูญเสียน้ำอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การดื่มน้ำเพียงวันละ 1 แก้ว จึงไม่เพียงพอตามความต้องการนี้ เพราะร่างกายมนุษย์อย่างน้อย 60 เปอร์เซนต์ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ อีกทั้งเซลล์ในร่างกายยังใช้น้ำเพื่อรักษาระบบการทำงาน น้ำยังเป็นตัวหล่อลื่นสำหรับข้อต่อต่างๆ ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายเหงื่อและการหายใจ และสุดท้ายช่วยในเรื่องการขับถ่ายของเสียอีกด้วย ร่างกายจะสูญเสียน้ำเมื่อขับเหงื่อ  ขับถ่าย และแม้แต่หายใจออก

แพคเกอร์ เขียนบทความไว้ในเว็บไซต์ด้านวิทยาศาสตร์ Scientific American ว่า ภายใต้ข้อกำหนดต่างๆ มนุษย์สามารถสูญเสียน้ำได้ 1-1.5 ลิตรต่อชั่วโมง และถ้าไม่มีการดื่มน้ำเข้าไปแทนที่น้ำที่สูญเสียไป สมดุลของเหลวในร่างกายจะตกลงอย่างรวดเร็ว และทำให้ระดับเลือดในร่างกายลดต่ำลงตามไปด้วย สำหรับคนที่มีปริมาณเลือดในร่างกายน้อย อาจเกิดความดันโลหิตลดลงจนถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต และอุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มขึ้นแต่ร่างกายไม่ขับเหงื่อ

คำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ บอกว่าในอาหารมีน้ำอยู่บ้างแล้ว แต่การดื่มน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญ และสิ่งจำเป็นที่สุด ของเหลวอื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ หรือนม สามารถป้องกันร่างกายขาดน้ำได้ แต่ของเหลวอย่างเดียวที่ควรอยู่ห่างไว้คือ แอลกอฮอล์ เพราะของเหลวชนิดนี้เป็นสาเหตุของการทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าการปัสสาวะเสียอีก
นอกจากนี้ Dr. Claude Piantadosi อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Duke ระบุว่า เราสามารถอยู่ในที่กลางแจ้งในอุณหภูมิปกติได้ราว 100 ชั่วโมง หรือ 4 วันนิดๆ โดยไม่ต้องดื่มน้ำ ถ้าอากาศเย็นกว่าปกติก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น แต่ถ้าอากาศร้อนหรือโดนแสงแดดโดยตรง ระยะเวลาที่จะมีชีวิตรอดก็จะยิ่งสั้นลง ตามปกติแล้ว คนเราจะสูญเสียน้ำออกไปจากร่างกายได้มากถึง 1-1.5 ลิตรต่อชั่วโมง ผ่านการปัสสาวะ เหงื่อ ท้องเสีย ท้องร่วง อาเจียน การทำงานของไตล้มเหลว หรือแม้กระทั่งการหายใจออก ดังนั้นหากเราไม่ดื่มน้ำเข้าไปทดแทนในจำนวนน้ำที่เราสูญเสียไป ของเหลวในร่างกายก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดต่ำลงด้วย ยิ่งคนที่มีปริมาณเลือดในร่างกายน้อยกว่าคนอื่น หากเกิดความดันโลหิตต่ำลง อุณหภูมิในร่างกายมากขึ้น (แต่ไม่ระบายขับออกทางเหงื่อ) ก็จะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้เร็วขึ้นไปอีก

จะเป็นอย่างไร ถ้าร่างกายเราอดน้ำ-อดอาหาร?
แล้วคนเราสามารถอยู่ได้โดยไม่กินอะไร นานแค่ไหนกัน?

ถ้าคนเราขาดสารอาหารจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ ต้องแยกว่าเราขาดสารอาหาร แล้วเราขาดน้ำด้วยไหม? เพราะการที่ร่างกายขาดน้ำโดยทั่วไปจะอยู่ได้ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ เท่านั้น เนื่องจากการที่ขาดน้ำเรื่อยๆ จะทำให้ขับปัสสาวะไม่ออก ของเสียภายในร่างกายเกิดการสะสมมากขึ้น อาจเกิดภาวะไตวาย ความดันต่ำลง หรืออาจถึงขั้นช็อกจนเสียชีวิตได้

การที่ร่างกายอดอาหาร ส่งผลต่อสุขภาพจิตหรือไม่?

ข้อมูลโดย นพ.โชติ เหลืองช่อสิริ แพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท 2 เผยว่าการที่อดอาหารนานจนเกินไป ไม่ใช่แค่เรื่องการขาดสารอาหารอย่างเดียว แต่จะเชื่อมโยงกับเรื่องจิตใจของเราด้วย เนื่องจากฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความซึมเศร้า ความหิว หรือความอยากรับประทานของคนเรานั้นก็จะลดลง

จะเป็นอย่างไร ถ้าร่างกายเราอดน้ำ-อดอาหาร?

ข้อควรปฏิบัติหลังอดอาหารมาหลายวัน

การที่เราจะเริ่มกลับมารับประทานอาหาร เราต้องเลือกรับประทานอาหารที่พร้อมจะดูดซึม อย่าง อาหารเจลที่พร้อมจะปรับลำไส้ เพื่อรับประทานไปแล้วสามารถดูดซึมได้เลย โดยรับประทานต่อเนื่องแบบนี้ประมาณ 4-7 วัน เพื่อทำให้ร่างกายมีการปรับตัวด้วยการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา และกลับมาย่อยอาหารหรือดูดซึมเองได้ แต่ต้องจำกัดชนิดอาหารและปริมาณในแต่ละวันให้เหมาะสม โดยค่อยๆ เพิ่มการรับประทานอาหารขึ้นมาทีละขั้นตอน แต่ยังไม่ควรจะเป็นอาหารที่มีรสชาติจัดมากจนเกินไป ทั้งนี้เราควรมีการสังเกตอาการควบคู่กันว่าร่างกายมีการถ่ายเหลวอยู่หรือเปล่า ถ้ายังมีการถ่ายเหลวอยู่ก็แปลว่าร่างกายยังไม่พร้อมที่จะย่อยและดูดซึม
นอกจากนี้ การรับประทานอาหารหลังจากที่อดอาหารมานานต้องพึงระวัง “ภาวะรีฟีดดิ้ง ซินโดรม” (Refeeding Syndrome) เนื่องจากร่างกายเราไม่ได้รับสารอาหารนั้นเลย เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารโดยทันที จะทำให้เซลล์ทุกอย่างในร่างกายเริ่มซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายพร้อมๆ กัน และดึงพลังงานนำไปใช้พร้อมกันหมด ทำให้ร่างกายของเรานั้นปรับตัวไม่ทัน สามารถทำให้เกิดอาการชา ตะคริว ชัก หรือเกร็งได้ ในขณะเดียวกัน การสร้างเซลล์ใหม่ๆ เราต้องใช้วิตามินบี 1 เข้าไปช่วยด้วยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

 

logoline