svasdssvasds
เนชั่นทีวี

รักษ์โลก

Top 7 เมืองที่ยั่งยืนมากที่สุดในโลก Sustainable Cities Index

01 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เมืองยั่งยืน" กับ "เมืองอัจฉริยะ" ต่างกันอย่างไร? สำรวจ 7 เมืองที่ยั่งยืนมากที่สุดในโลก ตามรายงานของ Arcadis ที่ใช้เกณฑ์ 3Ps People-Planet-Profit ในการนิยามมาตรฐานความยั่งยืน

การขยายตัวของเขตเมือง เป็นการเปลี่ยนแปลงของประชากรจากชนบทสู่เมือง ในช่วง 2 ศตวรรษที่ผ่านมา ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้มีการก่อสร้าง การเติบโต และการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเมืองใหม่ๆ ทั่วโลก ส่งผลให้เมืองเหล่านี้เป็นศูนย์กลางของการเติบโตทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมสมัยนิยม ในปี 2018 ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกอาศัยอยู่ในเขตเมือง และในปี 2050 มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ใน 3 ของประชากรโลก (ราว 7,000 ล้านคน)

เมืองที่ยั่งยืนคืออะไร?

เมืองที่ยั่งยืน คือเมืองที่คำนึงถึงผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ผ่านการวางแผนและการจัดการอย่างรอบคอบ เป็นเมืองที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมส่งเสริมการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนผ่านแนวทางแบบสหสาขาวิชาชีพ โดยคำนึงถึงผู้คน โลก และผลกำไร ซึ่งมักเรียกกันว่า “3P” ของความยั่งยืน

"เมืองที่ยั่งยืน" กับ "เมืองอัจฉริยะ" แตกต่างกันอย่างไร?

เมืองอัจฉริยะ (Smart City) หมายถึงเมืองที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ระบบอัจฉริยะ) เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ หัวใจสำคัญของเมืองอัจฉริยะ คือการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ๆ

ในทางกลับกัน แม้ว่า "เมืองที่ยั่งยืน" อาจใช้ระบบอัจฉริยะและบูรณาการเข้ากับการออกแบบตลอดจนใช้ในการดำเนินงาน แต่เมืองที่ยั่งยืนยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนจากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจมากกว่า

สำหรับรายงาน Sustainable Cities Index ของ Arcadis ใช้เกณฑ์ 3Ps ประกอบด้วย People, Planet และ Profit ในการนิยามความยั่งยืน คือผู้คนต้องได้ สิ่งแวดล้อมต้องได้ และเศรษฐกิจก็ต้องไปควบคู่กัน ดังนั้น เมืองที่จะได้อันดับ 1 ต้องมีนโยบาย เทคโนโลยี นวัตกรรม และการวางผังเมืองให้เอื้อต่อทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งต่างจาก Smart City นะ เพราะ Smart City จะเน้นไปที่การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการพัฒนาชีวิตของผู้คน และเพิ่มศักยภาพในการใช้ทรัพยากรต่างๆ ซึ่งใจความสำคัญของ Smart City คือเทคโนโลยี นั่นเอง

Top 7 เมืองที่ยั่งยืนมากที่สุดในโลก

Top 7 เมืองที่ยั่งยืนมากที่สุดในโลก Sustainable Cities Index

ออสโล ประเทศนอร์เวย์ แชมป์เมืองที่ยั่งยืนที่สุดในโลก

ออสโลติดอันดับเมืองที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก เนื่องจากความพยายามในการรักษาพื้นที่สีเขียว โดย 47% ของออสโลเป็นสีเขียว นอกจากนี้ การใช้พลังงานทดแทนส่วนใหญ่ของเมือง ยังผลักดันให้ออสโลจะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบเป็นศูนย์ในปี 2573 นอกจากนี้ เมืองยังมีความพยายามในเรื่องอาหารที่ทำจากพืชและอาหารตามฤดูกาลที่ยั่งยืน ตลอดจนการจัดซื้อทางสังคมและจริยธรรม

 

อันดับที่ 2 สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน

ความพยายามของสตอกโฮล์มในการสร้างความยั่งยืนเริ่มต้นในยุค 80 เมื่อเริ่มประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางน้ำและอากาศ ปัจจุบันสตอกโฮล์มถือเป็นเมืองที่มีความยั่งยืนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 เนื่องจากมีระบบขนส่งสาธารณะที่คลอบคลุม เป็นชุมชนนักปั่นจักรยาน มีอาคารประหยัดพลังงาน มีระบบการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ที่สำคัญคือสตอกโฮล์มตั้งเป้าหมายลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้ได้มากที่สุด ภายในปี 2567

Top 7 เมืองที่ยั่งยืนมากที่สุดในโลก Sustainable Cities Index

อันดับที่ 3 โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โตเกียวถือเป็นเมืองที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยอยู่ในอันดับที่ 3 และเป็นเมืองเดียวในเอเชียที่ติด 25 อันดับแรกในระดับโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความมุ่งมั่นของโตเกียวต่อโลกและเสาหลักด้านความยั่งยืนของผู้คน ภายในปี 2593 เมืองโตเกียวพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และเป็นผู้นำเมืองที่ลดอาชญากรรม การคมนาคม สุขภาพ รวมถึงความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

 

อันดับที่ 4 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

เหตุผลบางประการที่ทำให้โคเปนเฮเกนติดอันดับหนึ่งเนื่องมาจากโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนมากมายของเมือง เช่น การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางคาร์บอน ภายในปี 2568 การเปลี่ยนรถโดยสารจากดีเซลเป็นไฟฟ้า และหันมาใช้ถนนมากขึ้นจากการปั่นจักรยาน ยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 4 ของยอดขายอาหารทั้งหมดของโคเปนเฮเกนป็นแบบออร์แกนิก และไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งต้องขอบคุณโรงไฟฟ้าขยะเป็นพลังงานที่สะอาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

อันดับที่ 5 เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

สวนสาธารณะหลายแห่งของเบอร์ลินที่ตั้งอยู่ทั่วเมือง ทำให้เบอร์ลินเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดแห่งหนึ่งในสหภาพยุโรป โดยมีเป้าหมายบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2588 ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้เมื่อพิจารณาจากการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้ว 1 ใน 3 นับตั้งแต่ปี 2533

Top 7 เมืองที่ยั่งยืนมากที่สุดในโลก Sustainable Cities Index

อันดับที่ 6 ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ในปี 2018 ลอนดอนถือเป็นเมืองที่มีความยั่งยืนมากที่สุดอันดับ 1 ของโลกตามดัชนี Arcadis โดยเผยให้เห็นว่านับตั้งแต่ Brexit เมืองนี้ก็ได้ลดลงในแง่ของ 3Ps อย่างไรก็ตาม เมืองนี้อยู่ในอันดับที่ 6 ในรายการปี 2022 เนื่องจากมีโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืน เช่น โครงการจักรยานของเมือง เครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงได้ และการปรับปรุงคุณภาพอากาศ

 

อันดับที่ 7 ซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในฐานะเมืองที่ยั่งยืนที่สุดแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา ซีแอตเทิลกำลังเป็นตัวอย่างของการดำเนินการ 80% ของพลังงานในเมืองผลิตจากไฟฟ้าพลังน้ำที่สะอาดและปราศจากคาร์บอน และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการใช้กฎหมาย Clean Car ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ทุกคันที่ขายต้องไม่มีการปล่อยมลพิษ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเดินหน้าสู่เมืองที่ยั่งยืน

logoline