
ดอกราฟเฟิลเซีย หรือ บัวผุด เป็นพืชปรสิตที่หายาก มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากความกว้างกว่า 1 เมตร และคนรู้จักมันในอีกชื่อคือ ดอกไม้ซากศพ เนื่องจากมันสามารถปล่อยกลิ่นที่เน่าเหม็นรุนแรงออกมาได้ แรงจนขึ้นชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่เหม็นที่สุดชนิดหนึ่ง กลิ่นที่แรงนี้ เป็นเสน่ห์ในการดึงดูดแมลงวันกินเนื้อ
มีการค้นพบราฟเฟิลเซียทั่วโลกแล้ว 42 สายพันธุ์ และมีถิ่นฐานอยู่เกือบทุกที่ทั่วโลก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในพื้นที่เอเชียกำลังเสี่ยงทำราฟเฟิลเซียหายไปตลอดกาล เนื่องจากสถานการณ์การตัดไม้ทำลายป่าในป่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังคุกคามสายพันธุ์ดอกไม้เหล่านี้
ผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Plants, People, Planet ระบุว่า มากกว่าสองในสามของพืชสายพันธุ์นี้ไม่ได้รับการคุ้มครองโดยแนวทางการอนุรักษ์ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการประเมินภัยคุกคามระดับโลกครั้งแรกที่พืชเหล่านี้กำลังเผชิญ โดย 25 สายพันธุ์อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ และอีก 15 สายพันธุ์อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์
ราฟเฟิลเซียในประเทศไทย
ในประเทศไทย เราจะรู้จักราฟเฟิลเซียในชื่อ "บัวผุด" และ "กระโถนพระฤาษี" ซึ่งในปัจจุบันก็หาดอกไม้ชนิดได้ยากมาก ๆ แล้วในประเทศไทย เนื่องจากถูกคุกคามและเสี่ยงสูญพันธุ์
กระโถนพระฤาษี พบได้ในอุทยานแห่งชาติแม่โถ จ.เชียงใหม่
กระโถนพระฤาษี พืชหายากในประเทศไทย ราชินีแห่งกาฝากที่สามารถฝากตัวได้ทั้งบนพื้นดินและแขวนลอยตามต้นไม้ จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับบัวผุด เป็นพืชเบียนคือมันจะอาศัยเกาะอยู่ตามรากไม้ของพืชเถาวัลย์จำพวกเครือเถาน้ำ แทงเนื้อเยื่อในส่วนที่เป็นเส้นใยเข้าไปในรากของพืชอาศัยเพื่อดูดกินอาหาร เมื่อดอกบานจะมีลักษณะคล้ายกระโถนปากแตร กลีบดอกมีสีแดงสดและมีจุดประซึ่งเรียกว่าหูดสีเหลืองกระจายอยู่บนกลีบดอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของดอกอยู่ที่ประมาณ 10-15 เซนติเมตร
กระโถนพระฤาษี เมื่อบานแล้วจะมีกลิ่นเหม็น ซึ่งกลิ่นเหม็นนี้จะช่วยล่อแมลงวันมาช่วยในการผสมพันธุ์ กระโถนพระฤาษีจัดเป็นพืชที่ค่อนข้างหาดูได้ยากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เนื่องมาจากการบุกรุกทำลายป่าของมนุษย์
บัวผุด ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จ.สุราษฎร์ธานี
ดอกบัวผุด พบในป่าดิบตั้งแต่แหลมมลายูลงไป และในไทยพบที่อุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง อุทยานแห่งชาติคลองพนมฯ
ดอกบัวผุด เป็นพืชกาฝากที่อาศัยน้ำเลี้ยงจากรากของเถาวัลย์น้ำอย่าง เครือเขาน้ำหรือส้มกุ้ง ไม่มีลำต้น ไม่มีใบ มีเพียงดอกสีแดงประแต้มเหลืองใหญ่ราว 10 เซนติเมตร โผล่ขึ้นมาจากดินเท่านั้น เป็นดอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและมีกลิ่นที่เหม็นมาก ลักษณะคล้ายกับหม้อขนาดใหญ่มีกลีบหนา ภายในดอกจะมีแผ่นแบนคล้ายจาน ส่วนด้านบนมีปุ่มคล้ายหนามแหลมจานนี้จะซ้อนเกสรตัวผู้กับรังไข่ไว้ด้านล่าง ที่โคนของดอกมีกลีบนำสีน้ำตาลอมเหลืองเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่มาก ดอกบัวผุดใช้เวลาในการเติบโตนานกว่า 9 เดือน และจะบานอยู่ได้แค่ 4-5 วัน จากนั้นจะค่อย ๆ ดำเน่าไป
เราจะอนุรักษ์ราฟเฟิลเซียได้อย่างไร?
ตามปกติแล้ว ราฟเฟิลเซียใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตซ่อนอยู่ภายในเถาวัลย์ ในช่วงวัยอ่อน ราฟเฟิลเซียจะมีลักษณะเป็นดอกตูม คล้ายกะหล่ำปลี และยังมีขนาดไม่ใหญ่ ดอกไม้ชนิดนี้ ผสมเกสรผ่านของเหลวเหนียวข้นที่ส่งกลิ่นล่อแมลงวัน
หลังจากที่นักสำรวจชาวยุโรปค้นพบพืชเหล่านี้ครั้งแรกในปลายศตวรรษที่ 18 การได้เห็นหรือเก็บสะสม ดอกไม้กลายเป็นเป้าหมายของการสำรวจมาอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิชาการรู้สึกทึ่งเป็นพิเศษว่ามันเชื่อมโยงกับเถาวัลย์ในป่าได้อย่างไร
ที่ผ่านมา มีเพียงสายพันธุ์เดียวของราฟเฟิลเซียเท่านั้นที่ถูกระบุว่าใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งโดย สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) นั่นก็คือ Rafflesia magnifica และความจริงที่น่าเศร้า แม้ราฟเฟิลเซียจะเหลือน้อยมากแล้วบนโลก แต่ก็ยังไม่มีการประกาศชัดเจนว่าพวกมันได้รับการคุ้มครอง และนี่เอง เป็นสิ่งที่นักวิจัยต้องการให้พวกมันเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ทั้งหมด เพื่อปกป้องพวกมันจากการหายไปตลอดกาล