ภายหลังกรุงเทพมหานครเผชิญกับฝนตกหนักทั่วกรุงตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา เป็นเหตุให้หลายจุดทั่วกรุงเทพฯ ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมขังหลังฝนตก ซึ่งต้องใช้เวลาระบายน้ำเป็นเวลานาน เนื่องจากท่อระบายน้ำอุดตัน
โดยเมื่อน้ำทิ้งดังกล่าวไหลผ่านท่อและบ่อคอนกรีต ไขมันและน้ำมันจะผสมกับแคลเซี่ยมในท่อและบ่อคอนกรีต ทำให้ไขมันจับกันเป็นก้อนแข็งอุดตันได้ ดร.สนธิ กล่าว
ดร.สนธิ แนะนำว่า
การจัดการคือต้องให้ร้านอาหารทั้งที่ตั้งอยู่ริมฟุตบาธและในอาคารต้องติดตั้งถังดักไขมัน ห้ามปล่อยน้ำล้างถ้วยล้างชาม น้ำมันจากการทอด เศษเนื้อ เศษอาหารลงสู่ท่อระบายน้ำโดยตรง ส่วนน้ำทิ้งที่ผ่านกระบวนการของถังดักไขมันแล้วนั้น สามารถปล่อยทิ้งลงท่อระบายน้ำได้โดยไม่ก่อมลพิษ
“ดังนั้นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจึงต้องออกกฎระ เบียบให้มีการติดตั้งถังดักไขมันทุกแห่งและตรวจสอบด้วยว่าทำจริงหรือไม่” ดร.สนธิ กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า กรุงเทพฯ ยังคงมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมขังหลังฝนตกหนักอยู่ เนื่องจากสภาพฝนช่วงนี้ยังมีความเสี่ยงอยู่ เพราะว่ามีร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ และเป็นฝนที่เคลื่อนตัวช้า ต่างจากฝนที่มาจากมรสุมที่ผ่านไปเร็วตามลมพัด
ส่วนอีกปัญหาหนึ่งของการเกิดน้ำท่วมคือขยะอุดตัน นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่หน้างาน รถขยะกทม.จะเก็บขยะประมาณตี 1 หากมีฝนตกก่อนเวลาที่รถจะมาเก็บ จะทำให้ขยะที่วางรอไว้โดนฝนชะไปกีดขวางการระบายน้ำ
“ดังนั้น ช่วงหน้าฝนนี้ จึงต้องช่วยกันดูแล และขอความร่วมมือประชาชนพยายามนำขยะไว้ในบ้านก่อน จนใกล้ ๆ ถึงเวลาจัดเก็บแล้วจึงน้ำมาวางไว้ที่จุดรวม ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้จัดทำคอกเขียวเป็นที่รวบรวมขยะก่อนเจ้าหน้าที่จะมาเก็บ แต่ยังไม่เพียงพอ จึงมีถังขยะไปเพิ่มอีกประมาณ 10,000 ใบ ตามพื้นที่ต่าง ๆ ด้วย” นายชัชชาติ กล่าว