3 กรกฎาคม ของทุกปี ‘วันปลอดถุงพลาสติกสากล’ ลดใช้ถุงพลาสติก เพื่อสิ่งแวดล้อม
‘วันปลอดถุงพลาสติกสากล’ กำหนดขึ้นโดยองค์กร Plastic Bag Free World จากความร่วมมือขององค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายแห่งทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของถุงพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขยะพลาสติกยากต่อการกำจัด
รู้ไหมว่าถุงพลาสติกแบบ Single Use ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอย่างเป็นวงกว้าง
หนึ่งในนั้นรวมถึงตัวมนุษย์ด้วย ซึ่งการใช้งานถุงพลาสติกนั้นมีการใช้งานสั้นแต่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยเฉลี่ยถุงพลาสติกจะถูกใช้งานประมาณ 25 นาที แต่ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายเกือบ 500 ปี เลยทีเดียว
ทุกวันที่ 3 กรกฎาคม ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันปลอดถุงพลาสติกสากล’ หรือ International plastic bag free day ซึ่งกำหนดขึ้นโดยองค์กร Plastic Bag Free World ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายแห่งทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของถุงพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขยะพลาสติกที่จำนวนมหาศาลและยากต่อการกำจัดนี้จะไหนลงสู่ท้องทะเลเกือบ 80%
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นประมาณ 12% ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน มีการนำขยะพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์เฉลี่ยประมาณปีละ 0.5 ล้านตัน ส่วนที่เหลือ 1.5 ล้านตัน เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plasics) เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องโฟมบรรจุอาหาร ไม่มีการนำกลับมาใช้ประโยชน์ ด้วยความที่ถุงพลาสติกมีการใช้งานสั้น แต่อายุของมันยืนยาวมาก
หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสมจะส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน เช่น กระทบกับระบบนิเวศทางทะเล การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ตลอดจนการเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ เพราะพลาสติกเมื่อหมดอายุการใช้งานจะถูกย่อยสลายกลายเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งจะปนเปื้อนในดินและแหล่งน้ำ หรือหากนำไปเผาอย่างไม่ถูกวิธีก็จะทำให้เกิดปัญหามลพิษอีกด้วย
และในบ้านเราได้มีการตระหนักถึงผลกระทบอันร้ายแรงของพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวมากขึ้น หลายหน่วยงานและองค์กร รวมถึงภาคประชาชน ได้มีการขับเคลื่อนเรื่องนี้มากขึ้น ทั้งลด ละ เลิกใช้พลาสติกที่เกินความจำเป็นรวมถึงการ งดใช้โฟมบรรจุอาหาร โดยให้บูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาพลาสติกให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายว่าจะเลิกใช้พลาสติก 4 ประเภท ดังต่อไปนี้ ถุงพาสติกหูหิ้วขนาดความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน, กล่องโฟมบรรจุอาหาร, แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และหลอดพลาสติก และนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 100% ภายในปี 2570
เราเองก็สามารถช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมกันได้ง่ายๆ โดยการงดใช้ถุงพลาสติกเสียตั้งแต่วันนี้โดยหันมาใช้ถุงผ้าแทน เพื่อลดจำนวนขยะพลาสติกและมลพิษที่จะเกิดขึ้น
ขอขอบคุณที่มา: กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม