กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เปิดเผยว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธกว่า 180 ลูก ใส่อิสราเอลเมื่อคืนวันอังคาร (1 ตุลาคม) แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดขีปนาวุธได้ส่วนใหญ่ จากการร่วมมือกันของอิสราเอลและสหรัฐฯ โดยมีขีปนาวุธเพียงไม่กี่ลูกตกใส่ภาคกลาง และการโจมตีอื่น ๆ ในภาคใต้ของอิสราเอล แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บในอิสราเอล โดยมีชายคนหนึ่งเสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง และขีปนาวุธตกใส่โรงเรียนในภาคกลาง และร้านอาหารในกรุงเทลอาวีฟ
นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รายงานว่า เรือรบของสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธราวสิบลูกสกัดขีปนาวุธของอิหร่านที่มุ่งหน้าสู่อิสราเอล
ขณะที่มีรายงานว่า เสียงไซเรนเตือนภัยดังสนั่นทั่วอิสราเอล และเสียงระเบิดดังกึกก้องทั้งในนครเยรูซาเลม และหุบเขาจอร์แดน ริเวอร์ ประชาชนวิ่งเข้าที่หลบภัย และนักข่าวทีวีนอนราบกับพื้นระหว่างการรายงานสดในกรุงเทลอาวีฟ ขณะขีปนาวุธของอิหร่านและจรวดของระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลอยู่เหนือท้องฟ้า
ด้านกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม หรือ ไออาร์จีซี ของอิหร่าน ประกาศว่า มีการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่น “ฟัตตาห์” เป็นครั้งแรกในการโจมตีอิสราเอล และขีปนาวุธ 90% จากทั้งหมดสามารถยิงใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้สำหรับปฏิบัติการของอิสราเอลที่สังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ และแกนนำคนอื่น ๆ
ส่วนชาวอิหร่านออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนนในกรุงเตหะรานเพื่อแสดงความยินดี หลังไออาร์จีซียิงโจมตีอิสราเอล
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหลังการโจมตีว่า “อิหร่านทำสิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่ในคืนนี้ และจะต้องชดใช้สิ่งนี้ รัฐบาลอิหร่านไม่เข้าใจเจตนาของเราเพื่อปกป้องตัวเอง และความมุ่งมั่นของเราที่จะตอบโต้ศัตรูทั้งหลาย”
แต่พลตรีโมฮัมหมัด บาเกรี ประธานเสนาธิการร่วมของอิหร่าน เตือนด้วยว่า หากอิสราเอลยังคงก่ออาชญากรรม หรือ คุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของอิหร่าน ก็พร้อมจะปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดในอิหร่านด้วยความรุนแรงยิ่งขึ้นหลายเท่าจากการโจมตีในคืนนี้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวให้ความมั่นใจว่า สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ และบอกว่า การโจมตีของอิหร่านไร้ประสิทธิภาพ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า เขาจะหารือกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเกี่ยวกับแผนการตอบโต้ต่ออิหร่านอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ บอกด้วยว่า อิหร่านจะต้องได้รับผลลัพธ์จากการโจมตีอิสราเอล โดยยังไม่ให้รายละเอียดใด ๆ และไม่ได้เรียกร้องให้อิสราเอลอดกลั้นเหมือนเมื่อครั้งที่อิหร่านโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธต่ออิสราเอลเมื่อเดือนเมษายน
ขณะที่นักการทูตสหรัฐฯ และชาติอาหรับ ร่วมประณามการโจมตีของอิหร่าน และแสดงความกังวลต่อระดับการตอบโต้ของอิสราเอล ซึ่งหนึ่งในข้อกังวลใหญ่ คือ อิสราเอลอาจใช้ข้ออ้างการโจมตีของอิหร่าน เพื่อโจมตีในดินแดนของอิหร่าน โดยอาจมุ่งทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เตือนว่า วงจรการโจมตีและการล้างแค้นที่น่าอันตรายในขณะนี้ เสี่ยงลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้
การโจมตีของอิหร่านมีขึ้นหลังจากอิสราเอลเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเข้าโจมตีอย่างจำกัดและเจาะเจงเป้าหมายภายในดินแดนของเลบานอนเพื่อทำลายเป้าหมายของฮิซบอลเลาะห์ในวันเดียวกัน ขณะที่สหประชาชาติและอียู ย้ำให้สองฝ่ายหยุดยิง
กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอีก 55 ราย และผู้บาดเจ็บ 156 รายจากการโจมตีของอิสราเอลในวันอังคาร ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นเกือบ 1,900 ราย และผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็นกว่า 9,000 ราย จากการโจมตีในช่วงเกือบสองสัปดาห์