อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน โพสต์ในแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล ของเขาเมื่อวันพฤหัสบดี (12 กันยายน)ว่า “จะไม่มีการดีเบตครั้งที่ 3” ซึ่งเขานับรวมการดีเบตครั้งแรกกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อเดือนมิถุนายน และการดีเบตครั้งที่สองกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เมื่อวันอังคาร เขายังบอกด้วยว่า โพลระบุชัดเจนว่า เขาชนะดีเบต ทำให้เธอรีบขอจัดรอบสอง แต่แนะให้แฮร์ริสกลับไปทำหน้าที่รองประธานาธิบดีให้ดี
แม้ทรัมป์ยังคงย้ำว่า เป็นฝ่ายชนะการดีเบตที่จัดขึ้นโดยเอบีซี นิวส์ ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย และมีผู้ชมทางทีวีกว่า 67 ล้านคน แต่จริง ๆ แล้ว ทุกโพลใหญ่ ๆ รวมถึงของซีเอ็นเอ็น และนักวิจารณ์การเมืองจากทั้งสองพรรค ล้วนเห็นตรงกันว่า แฮร์ริสเป็นฝ่ายชนะ
ทีมหาเสียงของแฮร์ริส ประกาศทันทีหลังเสร็จสิ้นการดีเบตที่เธอทำได้ดีเกินคาดว่า อยากให้จัดดีเบตรอบสองในเดือนตุลาคม และท้าว่าทรัมป์พร้อมหรือไม่ และแฮร์ริส กล่าวระหว่างหาเสียงที่เมืองชาร์ล็อตต์ในวันพฤหัสบดีอีกว่า เธอรู้สึกติดค้างผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า ควรจัดดีเบตอีกครั้ง เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมากและเดิมพันสูงมาก
ขณะที่ทีมหาเสียงของแฮร์ริสไม่เชื่อคำประกาศของทรัมป์เท่าใดนัก โดยบอกว่า ทรัมป์เปลี่ยนจุดยืนทุกวัน และเชื่อว่า น่าจะยังมีการดีเบตอีกรอบ
นอกจากนี้เสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะไม่เข้าร่วมดีเบตอีกครั้งว่า อาจยิ่งส่งผลดีต่อแฮร์ริสที่ชนะดีเบตในรอบแรก เพราะจะเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า แฮร์ริสเหมาะจะเป็นประธานาธิบดี และการดีเบตรอบใหม่อาจมีโอกาสสั่นคลอนกระแสความนิยมของเธอได้ นอกจากนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระคนหนึ่ง บอกว่า ไม่แปลกใจที่ทรัมป์จะไม่ดีเบตอีก เพราะเขารู้ว่าไม่อาจหยุดยั้งเธอด้วยดีเบตแล้ว จึงจำเป็นต้องหาวิธีใหม่
ส่วนเจดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐโอไฮโอ และทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นแคนดิเดตรองประธานาธิบดีของทรัมป์ และแฮร์ริส ตามลำดับ มีกำหนดจะเข้าร่วมการดีเบตที่จัดครั้งเดียวโดยสถานีโทรทัศน์ ซีบีเอส ในวันที่ 1 ตุลาคม