สหรัฐฯ ตั้งข้อหา 6 แกนนำฮามาส กรณีบุกสังหารในอิสราเอล 7 ต.ค.
สหรัฐฯ แจ้งดำเนินคดีกับผู้นำฮามาส และสมาชิกระดับแกนนำอีก 5 คนในหลายข้อหา ซึ่งรวมถึง ฆาตกรรมพลเมืองสหรัฐฯ จากเหตุการณ์บุกสังหารในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว
เมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (3 กันยายน)ว่า มีการตั้งข้อหากับระดับผู้นำของฮามาส 6 คน ใน 7 ข้อหา ซึ่งรวมถึง ฆาตกรรมพลเมืองสหรัฐฯ, สมรู้ร่วมคิดให้เงินสนับสนุนการก่อการร้าย และใช้อาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยยื่นคำฟ้องต่อศาลที่นครนิวยอร์ก และข้อหาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีของฮามาสหลายครั้งในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา และรวมถึงเหตุการณ์โจมตีภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นขั้นแรกที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ พยายามดำเนินคดีกับระดับผู้นำของฮามาสสำหรับเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน โดยรวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 42 ราย และมีตัวประกันชาวอเมริกันที่ยังถูกจับตัวไว้ 10 คน ส่วนตัวประกันอเมริกันอีกรายเพิ่งถูกพบศพในอุโมงค์ในฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย 3 คน ที่เสียชีวิตแล้ว ได้แก่ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาส ที่ถูกลอบสังหาในอิหร่านเมื่อเดือนกรกฎาคม, โมฮัมเหม็ด เดอิฟ ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อเดือนกรกฎาคม และมาร์วัน อิซา ที่อิสราเอลสังหารเมื่อเดือนมีนาคม
ส่วนอีก 3 คน ที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำทางการเมืองคนใหม่ของฮามาส ที่เชื่อว่า ยังซ่อนตัวอยู่ในฉนวนกาซา, คาเล็ด เมชาอัล ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ที่กรุงโดฮาของกาตาร์ และอาลี บารากา ซึ่งประจำอยู่ในเลบานอน
หากผู้ต้องหาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจต้องโทษสูงสุด คือ ประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกับสื่อว่า การตั้งข้อหามีขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่ปิดเรื่องนี้ไว้เพื่อว่าอาจมีโอกาสจับกุมฮานิเยห์ แต่ตัดสินใจเปิดเผยในเวลานี้หลังจากฮานิเยห์เสียชีวิตแล้ว