
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสอบสวนของทางการฝรั่งเศส เปิดเผยว่า มีคำสั่งขยายการควบคุมตัว พาเวล ดูรอฟ วัย 39 ปี ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของเทเลแกรม แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมออกไปจากค่ำวันอาทิตย์ หลังเขาถูกรวบตัวทันทีที่เครื่องบินส่วนตัว ซึ่งบินมาจากอาเซอร์ไบจาน ลงจอดที่สนามบินเลอ บูเกต์ นอกกรุงปารีสเมื่อค่ำวันเสาร์ โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับ และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำได้นาน 96 ชม. หลังจากนั้นจะต้องมีการตั้งข้อหาหรือปล่อยตัวเขา ขณะที่มีรายงานว่า เขาอาจถูกควบคุมตัวอยู่ในอาคารกระทรวงมหาดไทย นอกกรุงปารีส
“ออฟมิน” ซึ่งเป็นหน่วยงานป้องกันความรุนแรงต่อเยาวชนของฝรั่งเศส กำลังสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับเทเลแกรม กรณีขาดการควบคุมเนื้อหาอย่างเพียงพอทำให้ถูกนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึง การฉ้อโกง, การลักลอบค้ายาเสพติด, การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์, องค์กรอาชญากรรม และการส่งเสริมการก่อการร้าย และดูรอฟ ถูกกล่าวหาว่า ไม่ได้ดำเนินการเพื่อยับยั้งการใช้งานแอปพลิเคชันโดยพวกอาชญากร โดยการสอบสวนมุ่งเน้นประเด็นการขาดการกลั่นกรองบนแพลตฟอร์ม
ดูรอฟเกิดในรัสเซีย แต่ออกจากประเทศในปี 2557 และอาศัยอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเทเลแกรม เขาถือสัญชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์และฝรั่งเศสด้วย
ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า สถานทูตประจำฝรั่งเศสดำเนินมาตรการที่จำเป็นทันทีเพื่อต้องการข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับพลเมืองรัสเซีย แม้ไม่ได้รับการร้องขอจากตัวแทนของดูรอฟ และสถานทูตยืนยันว่า กำลังขอทราบเหตุผลการควบคุมตัว และการคุ้มครองสิทธิของนายดูรอฟ ตลอดจนการเข้าถึงกระบวนการด้านกงสุล แต่ทางการฝรั่งเศสไม่ให้ความร่วมมือ
ขณะที่เทเลแกรม ซึ่งมีผู้ใช้งานเกือบ 900 ล้านคน ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การกลั่นกรองของแพลตฟอร์มเป็นไปตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเป็นเรื่องไร้สาระที่อ้างว่า แพลตฟอร์มหรือเจ้าของแพลตฟอร์มต้องรับผิดชอบต่อการนำแพลตฟอร์มไปใช้งานในทางที่ผิด และบอกด้วยว่า ดูรอฟไม่มีอะไรต้องหลบซ่อน และเดินทางไปยุโรปบ่อยครั้ง
นอกจากนี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย บอกด้วยว่า การจับกุมดูรอฟสะท้อนถึงการกระทำของชาติตะวันตกที่ใช้สองมาตรฐานในประเด็นเสรีภาพการพูด และย้อนถามว่า องค์กรเอ็นจีโอต่างชาติจะนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้หรือไม่ พร้อมกับยกตัวอย่างในปี 2561 ที่เอ็นจีโอ 26 แห่ง อย่าง ฮิวแมนไรท์วอทช์ และแอมเนสตี อินเตอร์แนชันแนล ประณามการตัดสินใจของศาลรัสเซียที่สั่งบล็อกเทเลแกรม
ขณะที่ข่าวการจับกุมดูรอฟจุดประเด็นถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น และเนื้อหาผิดกฎหมายในโซเชียลมีเดีย ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา และอีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์ม X ร่วมติดแฮชแท็ก #FreePavel ด้วย