กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น แถลงในวันศุกร์ว่า มีทหารและข้าราชการระดับอาวุธในกองกำลังป้องกันตนเองถูกลงโทษทางวินัย 218 คน ซึ่ง 11 คน ถูกไล่ออก, 2 คน ถูกลดตำแหน่ง, 83 คน ถูกพักงาน, 14 คน ถูกหักเงินเดือน และอีก 7 คน ถูกตำหนิติเตียนอย่างเป็นทางการ ส่วนคนที่เหลือได้รับการตักเตือน
เรื่องอื้อฉาวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล และพลเรือเอก เรียว ซาไก ประธานเสนาธิการของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล จะลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบโดยจะมีผลในวันที่ 19 กรกฎาคม โดยเขายังถูกตัดเงินเดือนจากการไม่สามารถควบคุมและกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอีกด้วย และคาซุโอะ มาซูดะ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และพลเอกโยชิฮิเดะ โยชิดะ ประธานเสนาธิการทหารร่วมได้รับคำตักเตือน
ซาไก แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า เขาคิดว่า สาเหตุหลักของเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการขาดการปฏิบัติตามข้อบังคับในหมู่ทหาร และการขาดธรรมาภิบาลภายในองค์กร
และมิโนรุ คิฮาระ รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวขอโทษและน้อมรับความรับผิดชอบที่ทำลายความศรัทธาของประชาชน ระหว่างการแถลงรายงานการลงโทษทางวินัยภายในกระทรวงกลาโหมและกองกำลังป้องกันตนเอง และสัญญาจะคืนเงินเดือน 1 เดือน ในฐานะรัฐมนตรี
แต่คิฮาระ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ยืนยันว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง และให้คำมั่นจะฟื้นฟูองค์กรภายในกระทรวงกลาโหมและกองกำลังป้องกันตนเองเพื่อเรียกคืนความไว้วางใจจากประชาชน
ผลการตรวจสอบ พบว่า ลูกเรือบางคนบนเรือพิฆาตบางลำเผยข้อมูลชั้นความลับที่มีความอ่อนไหวแก่เพื่อนร่วมงานที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าถึงข้อมูล เกี่ยวกับบันทึกการเคลื่อนไหวของเรือ และยังเกิดกรณีคล้ายกันกับกองกำลังภาคพื้นดินและกองกำลังทางอากาศ และสำนักงานเสนาธิการทหาร แต่ความลับเหล่านั้นไม่ได้เล็ดลอดออกนอกกองกำลังป้องกันตนเองและกระทรวงกลาโหม
นอกจากนี้ทหารบางรายในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลเบิกเงินค่าเบี้ยเลี้ยงภารกิจการดำน้ำที่ไม่เกิดขึ้นจริงรวมเป็นเงินเกือบ 43 ล้านเยน ซึ่งเชื่อว่า เกี่ยวข้องกับทหารหลายสิบนาย และเกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 ปี และทหารและเจ้าหน้าที่อีกกว่า 20 คน ไม่ยอมจ่ายเงินค่าอาหารในโรงอาหารของค่ายทหาร
และเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม 3 คนที่อยู่ในระดับอธิบดี หรือสูงกว่านั้น ถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจในทางมิชอบจากการพูดจาข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชาและส่งผลกระทบต่อสภาพ
จิตใจ